<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Bitcoin ดัน ‘Satoshi’ ขึ้นแท่นเศรษฐีอันดับ 11 ของโลก จับตาโปรเจกต์ Layer-2 ปูทางสู่นวัตกรรมครั้งใหม่

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อราคา Bitcoin (BTC) ทำลายสถิติสูงสุดเดิมเหนือ $120,000 มันได้ส่งผลให้ Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง Bitcoin ขึ้นแท่นเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 11 ของโลกทันที หากคุณต้องการครอบครอง Bitcoin ในระดับเดียวกับ Satoshi ณ วันนี้ ต้องใช้เงินมากกว่า 135,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีเพียงแค่ Elon Musk หรือ Jeff Bezos เท่านั้นที่อาจเอื้อมถึงตัวเลขนี้

อย่างไรก็ตาม โอกาสในการสร้างความมั่งคั่งในโลกของ Bitcoin อาจไม่จำเป็นต้องใช้เงินมหาศาลเสมอไป Bitcoin Hyper (HYPER) กำลังเสนอทางเลือกที่น่าสนใจให้กับนักลงทุนที่มองหาโอกาสด้วยวิสัยทัศน์ที่เฉียบคมและกล้าตัดสินใจ

โปรเจกต์ Bitcoin Hyper คือ โซลูชัน Layer-2 ตัวแรกที่ผสานความปลอดภัยอันแข็งแกร่งของเครือข่ายหลัก Bitcoin เข้ากับความเร็วระดับเสี้ยววินาทีของ Solana มีเป้าหมายเพื่อปลดล็อกศักยภาพด้านการเขียนโปรแกรมและประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งโปรเจกต์ขยายเครือข่าย Bitcoin รุ่นก่อนอย่าง Stacks และ Rootstock ยังไม่สามารถเข้าถึงได้เต็มที่ 

นักลงทุนจำนวนมากที่มองเห็น Bitcoin Hyper เป็นโอกาสสร้างความมั่งคั่งแห่งยุค ไม่ต่างจาก Bitcoin ในช่วงแรก ได้ร่วมสนับสนุนโปรเจกต์นี้ จนมียอดระดมทุนทะลุ 3 ล้านดอลลาร์แล้ว

ปัจจุบัน HYPER มีราคาในช่วงระดมทุนอยู่ที่ 0.0123 ดอลลาร์ต่อโทเค็น เมื่อ Bitcoin กำลังทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล (ATH) โอกาสในการถือครองโซลูชัน Layer-2 ที่ทรงพลังที่สุดในราคาที่จับต้องได้ก็กำลังจะหมดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน

เมื่อราคา Bitcoin ทะลุจุดสูงสุด (ATH) ครั้งใหม่ ทุกสายตาต่างจับจ้องว่าก้าวต่อไปจะเป็นอย่างไร

ราคา Bitcoin ในช่วงก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่า $110,000 แต่ในวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ราคาก็ได้ทะลุผ่านจุดสูงสุดเดิมในเดือนพฤษภาคม และพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพุ่งแรงเป็นพิเศษในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจนแตะระดับสูงสุดที่ $122,838 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2025

แรงหนุนสำคัญของการปรับตัวขึ้นครั้งนี้ มาจากความหวังในด้านกฎระเบียบที่ดีขึ้น หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้จัดกิจกรรม “Crypto Week” เพื่อโหวตกฎหมายสำคัญ 3 ฉบับ หนึ่งในนั้นคือ Genius Act ซึ่งปัจจุบันร่างกฎหมายฉบับนี้ ได้ผ่านการโหวตขั้นตอนสุดท้ายอย่างเป็นทางการแล้ว รอเพียงแค่ทรัมป์เซ็นเท่านั้น 

ที่มา:X/Financial Services GOP

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องความกลัวตกรถ (FOMO) จากนักลงทุนสถาบัน รวมถึงการปิดสถานะ Short มูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งช่วยผลักดันให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อตลาด BTC ทะลุระดับ $118,000 การวิ่งขึ้นอย่างรุนแรงก็เริ่มต้นขึ้นทันที

ในขณะที่ Bitcoin สร้างจุดสูงสุดใหม่ หลายคนคาดการณ์ว่า ความสนใจจะเริ่มขยับไปยังเหรียญทางเลือกอื่น ๆ และไหลเข้าสู่โปรเจกต์ใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูงในช่วงไตรมาสที่สาม และหนึ่งในโปรเจกต์ใหม่ที่โดดเด่นและได้รับความสนใจและการระดมทุนตั้งแต่ช่วงแรกคือ Bitcoin Hyper โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเครือข่ายหลักอย่าง Bitcoin กำลังผลักดันราคาสินทรัพย์ดั้งเดิมให้สูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน 

หลายคนมองว่า Bitcoin Hyper เป็นตัวเร่งสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยน Bitcoin จากสินทรัพย์ที่เน้นการเก็บมูลค่าแบบนิ่ง ๆ ให้กลายเป็นระบบนิเวศที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย มีความคล่องตัวสูง และสามารถประมวลผลธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว Bitcoin Hyper จึงเปลี่ยนบทบาทของ Bitcoin จากสินทรัพย์แบบดั้งเดิมให้กลายเป็นหัวใจสำคัญของอนาคตโลก Web3

Bitcoin Hyper กำลังเปลี่ยน BTC ให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนที่สามารถใช้งานได้จริง 

ลองจินตนาการดูว่า Bitcoin สามารถทำให้ Satoshi Nakamoto ร่ำรวยขึ้นแท่นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้ ในขณะที่ตัวมันเองยังถูกมองว่าเป็นเพียงสินทรัพย์ที่เอาไว้เก็บมูลค่า แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้า BTC สามารถขับเคลื่อนแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) ประสิทธิภาพสูงได้ในระบบนิเวศที่ผสานความเร็วสูงสุดในวงการและความปลอดภัยระดับสูงสุดเข้าไว้ด้วยกัน

Bitcoin Hyper ทำให้สิ่งนี้เป็นจริง ด้วยการนำ Solana Virtual Machine (SVM) มาใช้เพื่อการประมวลผลที่รวดเร็วแทบจะทันที พร้อมกับยังคงเชื่อมโยงกับเครือข่าย Bitcoin ผ่าน Bridge เชื่อมแบบกระจายศูนย์และไม่ต้องผ่านตัวกลาง (non-custodial) 

ที่มา:X/Bitcoin Hyper

เหรียญ BTC จะถูกล็อกไว้ที่เลเยอร์หลัก และมีการสร้างเหรียญ wrapped BTC ขึ้นมาเพื่อใช้งานภายในระบบนิเวศบนเครือข่าย Bitcoin Hyper โดยใช้เทคโนโลยี Zero-knowledge proofs และระบบ finality ดั้งเดิมของ Bitcoin เพื่อให้การทำธุรกรรมปลอดภัยและไม่ต้องพึ่งพาคนกลาง เมื่อคุณต้องการถอน ผู้ใช้เพียงแค่เบิร์นเหรียญ wrapped BTC และระบบ Bridge จะปล่อยเหรียญ BTC ตัวจริงกลับไปยังบล็อกเชนหลัก 

กระบวนการนี้ อาจทำให้ปริมาณ BTC ที่ใช้งานได้ลดลงชั่วคราว แต่จะเพิ่มขีดความสามารถในการใช้งานของ BTC อย่างมีนัยสำคัญ และทำให้ HYPER ซึ่งเป็นโทเคนหลักของระบบนิเวศ กลายเป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลประโยชน์หลักจากกระแสการใช้งานที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

อะไรจะเกิดขึ้นหาก Bitcoin Hyper กลายเป็นเลเยอร์ที่พา Bitcoin ก้าวข้ามขีดจำกัดแบบเดิมๆ ? 

Bitcoin ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วถึงความสามารถในการเก็บรักษามูลค่าบนบล็อกเชน แต่ถ้าก้าวต่อไปคือ  การแสดงให้เห็นว่า “มูลค่า” นั้นสามารถนำไปใช้ทำอะไรได้บ้างล่ะ และนี่คือหัวใจสำคัญของวิสัยทัศน์จาก Bitcoin Hyper 

การปลดล็อกศักยภาพของ BTC ให้กลายเป็นสินทรัพย์ที่สามารถใช้งานได้อย่างแท้จริง สามารถเทรดได้ Stake ได้ และนำไปใช้งานจริงได้ มันคือการยกระดับบทบาทของ Bitcoin จากแค่สินทรัพย์เก็บมูลค่า ไปสู่เลเยอร์การใช้งานสำหรับแอปพลิเคชัน Web3 แห่งอนาคตอย่างแท้จริง

ถ้าหาก Bitcoin Hyper ได้ฤกษ์เปิดตัวในช่วงปลายไตรมาส 3 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดคริปโตมักเข้าสู่ช่วงขาขึ้น และมีการยอมรับใช้งานในวงกว้างจริง ก็ยากที่จะคาดเดาว่าศักยภาพในการเติบโตจะไปได้ไกลแค่ไหน เพราะที่ผ่านมา ความเชื่อใน Bitcoin ตั้งแต่ยุคแรกได้เปลี่ยนชีวิตผู้คนจำนวนมาก หาก Bitcoin Hyper ทำได้ตามที่ตั้งใจไว้ ผู้ที่เข้าร่วมตั้งแต่ช่วงแรก อาจกลายเป็นผู้เล่นสำคัญในการเปลี่ยนโฉมการใช้งาน BTC ครั้งใหญ่ก็เป็นได้

ที่มา:X/Bitcoin Hyper

สำหรับผู้ที่สนใจเป็นผู้ถือครอง HYPER คุณสามารถเข้าไปได้ที่เว็บไซต์ Bitcoin Hyper และหากคุณต้องการก้าวทันโลก Web3 อย่างเต็มรูปแบบ Best Wallet คือกระเป๋าเงินยอดนิยมที่ตอบโจทย์อนาคตนี้

เท่านั้นยังไม่พอ โทเค็น HYPER ยังได้รับการแสดงอยู่ในหมวด Upcoming Tokens ภายในแอป Best Wallet ทำให้คุณสามารถติดตาม ดูข้อมูล และเคลมโทเคนได้อย่างง่ายดาย 

สามารถติดตามข่าวสารและพูดคุยกับชุมชน Bitcoin Hyper ได้ที่ Telegram และ X

หากสนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Bitcoin Hyper

เช็คลิสต์ รายละเอียด สถานะ
1. เว็บไซต์ & Whitepaper โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม ✔️
2. ความโปร่งใสของทีมงาน ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด
3. Tokenomics เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และไม่มีฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป ✔️
4.Smart Contract Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน ✔️
5. มีกำหนดการชัดเจน โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน
6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ ⚠️ (ไม่ชัดเจน)
7. คอมมูนิตี้ โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว ✔️
8. สภาพคล่อง โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น
9. ไม่มีสัญญาณอันตราย โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น ⚠️ (ไม่ชัดเจน)
อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่

บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน

<strong>บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์</strong>