การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงเป็นเรื่องที่น่าจับตามองอย่างต่อเนื่อง โดยในสัปดาห์นี้ ทั้งสองประเทศเตรียมขยายเวลาหยุดการขึ้นภาษีออกไปอีก 90 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้การเจรจาในรอบที่สามที่กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ดำเนินต่อไป ด้วยหวังว่าจะสามารถหาทางออกให้กับความตึงเครียดทางการค้าที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 5 ปี
หนึ่งในประเด็นสำคัญที่เป็นอุปสรรคใหญ่ในครั้งนี้คือเรื่องของสาร Fentanyl ซึ่งจีนต้องการให้สหรัฐฯ ยกเลิกภาษีในวัตถุดิบเคมีที่ใช้ผลิตสารดังกล่าว ที่กำลังทำให้เกิดปัญหายาเสพติดในสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ ยังคงมองว่า การนำเข้ากลุ่มสารเคมีจากจีนมีส่วนสำคัญที่ทำให้วิกฤตยาเสพติดรุนแรงขึ้น จึงไม่สามารถยกเลิกภาษีนี้ได้โดยง่าย แม้จีนจะพยายามยกข้อเสนอในทางที่ร่วมมือกันมากขึ้น ด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความร่วมมือด้านเทคนิคแทนการใช้ภาษี
นอกจากจีนแล้ว สหรัฐฯ ยังได้บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหภาพยุโรปโดยการลดภาษีจาก 30% เหลือ 15% หลังจากที่ยุโรปยอมซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ เพิ่มอีก 7.5 แสนล้านดอลลาร์ และลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มเติมอีก 6 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งการลดภาษีครั้งนี้จะครอบคลุมในส่วนของยานยนต์ ยารักษาโรค และเซมิคอนดักเตอร์เท่านั้น ส่วนภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมยังคงเดิมที่ 50% จนกว่าจะมีการเจรจาข้อตกลงเพิ่มเติมในอนาคต
สำหรับประเทศไทย กลับไม่ได้รับข่าวดีเหมือนกับหลายประเทศอื่น ๆ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งทำให้การเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ทรัมป์เคยประกาศว่าไม่มีการเจรจาเพิ่มจนกว่าสงครามชายแดนจะสงบลง ทำให้คนไทยต้องคอยติดตามต่อไปว่าไทยจะได้รับการยกเว้นภาษีเพิ่มเติมจากเดิมที่ 36% หรือไม่ โดยเส้นตายตอนนี้อยู่ที่ 1 สิงหาคม 2568 ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ประเทศไทยต้องจับตามองว่า สถานการณ์จะพลิกกลับไปในทางที่ดีขึ้นหรือไม่
ที่มา : Cryptopolitan

