<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

มาตามนัด! ทำเนียบขาวปล่อยรายงานสินทรัพย์ดิจิทัล วางแนวทางชัดเรื่องกฎหมาย, Stablecoin, และภาษี

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

คณะทำงานด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เผยแพร่รายงานคริปโตที่ถูกจับตามองมานาน  ซึ่งมีการเสนอแนะนโยบายเกี่ยวกับการกำกับดูแลคริปโตในสหรัฐฯ โดยครอบคลุมถึงโครงสร้างตลาดคริปโต อำนาจกำกับดูแลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ กฎระเบียบทางการเงิน การส่งเสริมบทบาทของดอลลาร์สหรัฐผ่าน Stablecoin และการจัดเก็บภาษีคริปโตเคอร์เรนซี

หนึ่งในประเด็นหลักที่ถูกเน้นในรายงานคือ การสร้างระบบ “การจำแนกประเภท” ของสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจนว่า เหรียญใดเป็น “หลักทรัพย์” และเหรียญใดเป็น “สินค้าโภคภัณฑ์”

โดยคณะทำงานเสนอให้แบ่งหน้าที่การกำกับดูแลระหว่าง CFTC (คณะกรรมการซื้อขายล่วงหน้า) และ SEC (คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์) โดยให้ CFTC มีอำนาจดูแลตลาดคริปโตสปอต

รายงานระบุว่า CFTC ควรดูแลเหรียญที่จัดเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่เหรียญที่เข้าข่ายหลักทรัพย์จะอยู่ภายใต้การดูแลของ SEC พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองหน่วยงานทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง ซึ่งการสร้างโครงสร้างตลาดที่ชัดเจนนี้จะช่วยให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำในโลกสินทรัพย์ดิจิทัล

ที่ปรึกษาในคณะทำงานด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของประธานาธิบดีและผู้บริหารในอุตสาหกรรมได้ประชุมกันในการประชุมสุดยอดคริปโตทำเนียบขาวในเดือนมีนาคม ที่มา: The Associated Press

Paul Atkins ประธาน SEC กล่าวในแถลงการณ์ แสดงความคิดเห็นว่า

 “กรอบการกำกับดูแลที่สมเหตุสมผล จะกระตุ้นนวัตกรรมในอเมริกา ปกป้องนักลงทุนจากการฉ้อโกง และยังคงทำให้ตลาดทุนของเราเป็นที่อิจฉาของทั่วโลก”

ในด้านกฎระเบียบของภาคการธนาคาร รายงานระบุว่า ควรผ่อนคลายข้อจำกัดและกำหนดแนวทางให้ชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องการอนุญาตให้ธนาคารสามารถให้บริการดูแลรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลและเปิดให้บริการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าได้ รวมถึงให้ปรับปรุงขั้นตอนการขอใบอนุญาตธนาคารให้โปร่งใส และเป็นมิตรมากขึ้น

ในส่วนของ Stablecoin รายงานเน้นย้ำว่า สหรัฐฯ ควรสนับสนุน Stablecoin เพื่อคงอำนาจของเงินดอลลาร์ในระบบการเงินโลก พร้อมเสนอให้รัฐสภา ผ่านร่างกฎหมาย “CBDC Anti-Surveillance State Act” ซึ่งเป็นกฎหมายห้ามไม่ให้ธนาคารกลางสหรัฐ พัฒนาเงินดิจิทัลกลาง (CBDC) ของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม รายงานยังชี้ให้เห็นว่า Stablecoin มีคุณสมบัติหลายอย่างที่คล้ายคลึงกับ CBDC เช่น ความสามารถในการทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐ เพื่อ “อายัด” หรือ “ยึด” ทรัพย์สิน ในกรณีที่มีการใช้งานในทางที่ผิดกฎหมาย

สุดท้าย รายงานเสนอให้สภาคองเกรสออกกฎหมายภาษีใหม่ ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยควรคำนึงถึงเรื่องการ Staking ซึ่งยังไม่มีข้อกำหนดชัดเจนในระบบภาษีปัจจุบัน

“ควรมีกฎหมายที่ออกแบบภาษีเฉพาะสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยดัดแปลงจากกฎภาษีของหุ้น หรือสินค้าโภคภัณฑ์ในปัจจุบันให้เหมาะสมกับธรรมชาติของคริปโต”

ที่มา : cointelegraph