วันนี้ (25 ส.ค.) ตลาดคริปโตต้องเผชิญกับแท่งแดงอีกครั้ง เมื่อราคา Bitcoin ดิ่งลงอย่างรุนแรง จากระดับ 115,000 ดอลลาร์ ลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 110,000 ดอลลาร์ ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยมาซื้อขายกันอยู่ที่ 111,500 ดอลลาร์ ตอนนี้คำถามที่หลายคนอยากรู้คือ เกิดอะไรขึ้นกับตลาดคริปโตกันแน่ และนี่คือ 3 ปัจจัยหลักที่อยู่เบื้องหลังการร่วงลงของราคา Bitcoin

1. ความตึงเครียดในสงครามรัสเซีย-ยูเครนปะทุขึ้นอีกครั้ง
หนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก รวมถึง ตลาดคริปโต คือ ความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งครั้งนี้เป็นเรื่องของสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ความหวังเรื่องการเจรจาสันติภาพดูเหมือนจะเลือนลางลงอย่างรวดเร็ว เมื่อ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ออกมาปฏิเสธแผนการประชุมกับประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนอย่างชัดเจน โดยให้เหตุผลว่า “วาระการประชุมยังไม่พร้อม”
คำพูดนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ความหวังที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องจบลง แต่ยังตามมาด้วยการโจมตีทางทหารที่รุนแรงขึ้นของทั้งสองฝ่าย ซึ่งรวมถึงการโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในรัสเซียด้วยโดรนของยูเครน เหตุการณ์เหล่านี้ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง Bitcoin โดยตรง
2. เจ้ามือเทขาย Bitcoin ล็อตใหญ่ 24,000 BTC
ช่วงเช้าวันนี้ มีรายงานว่า เจ้ามือรายหนึ่งเพิ่งทำสิ่งที่ทำให้คนทั้งตลาดหัวใจหยุดเต้นด้วยการเทขาย Bitcoin ออกมา 24,000 BTC มูลค่ารวมกว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ ในคราวเดียว ผลที่ตามมาคือราคา Bitcoin ดิ่งลง 4,000 ดอลลาร์ภายในไม่กี่นาที
ที่น่าหวาดเสียวกว่านั้นคือ หลังจากเทขายไปแล้ว เจ้ามือรายนี้ยังเหลือ Bitcoin อยู่ในมือถึง 152,874 BTC คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ แปลว่าถ้าเขาตัดสินใจขายต่อ ตลาดจะได้รับแรงกระแทกหนักอีกระลอก
คำถามสำคัญคือ ทำไมเจ้ามือรายนี้ ถึงเลือกขายในจังหวะนี้ อาจเป็นเพราะเขาเห็นสัญญาณอะไรบางอย่างที่เราพลาดไป หรืออาจเป็นการขายเก็บกำไรหลังจาก Bitcoin ขึ้นมาแรงในช่วงที่ผ่านมา แต่ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไร การเคลื่อนไหวของเขาทำให้นักลงทุนรายย่อยตื่นตระหนกและขายตาม
3. คำสาปของ Jackson Hole ไม่ว่าจะพูดอะไร Bitcoin ก็พุ่งแล้วร่วง
ข้อมูลจาก Crypto Rover เปิดเผยเรื่องราวที่น่าทึ่ง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ออกมาแถลงข่าวในงาน Jackson Hole ไม่ว่าเขาจะพูดในแนว Hawkish (เข้มงวดเรื่องดอกเบี้ย) หรือ Dovish (ผ่อนปรนดอกเบี้ย) ผลที่เกิดขึ้นกับ Bitcoin ก็ค่อนข้างคล้ายกัน คือ “Pump and Dump” หรือ พุ่งขึ้นก่อน แล้วก็ดิ่งลงทันที

โดยสรุปแล้ว การร่วงลงของ Bitcoin ในวันนี้ เกิดขึ้นจากปัจจัยหลายตัวที่มาชนกันพอดี ทั้งความตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครน, การเทขายของเจ้ามือรายใหญ่ และกระแสการเก็งกำไรในช่วงหลังการประชุมประจำปี Jackson Hole ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดคริปโตนั้นมีความผันผวนสูง และเป็นสิ่งที่นักลงทุนทุกคนควรตระหนักถึงอยู่เสมอ

