ราคา BNB แสดงความผันผวนอย่างรุนแรงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยร่วงลงต่ำกว่าระดับ 850 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ยังคงปรับฐานต่อเนื่องจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 900 ดอลลาร์เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ตลาดกำลังอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวก่อนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจเป็นตัวชี้วัดทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาของสินทรัพย์นี้แกว่งตัวอยู่ระหว่าง 846 ถึง 868.76 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวประมาณ 2% ที่เริ่มต้นด้วยโมเมนตัมเชิงบวก แต่สุดท้ายกลับแสดงสัญญาณอ่อนแรงใกล้แนวต้าน
สัญญาณบนเชนขัดแย้ง Wallet พุ่ง-วอลุ่มแผ่ว
แม้ว่าราคา BNB จะไม่สามารถยืนในแดนบวกได้ แต่กิจกรรมบนเครือข่ายกลับส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกันอย่างน่าสนใจ ข้อมูลจาก DeFiLlama แสดงให้เห็นว่า จำนวนกระเป๋าเงินที่มีการใช้งานรายวัน (Daily Active Wallets) บน BNB Chain ได้เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า แตะระดับเกือบ 2.5 ล้าน Address
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากแหล่งเดียวกันกลับชี้ว่า ปริมาณธุรกรรมบนเครือข่ายกลับลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน
ความผันผวนนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีการยื่นขอจัดตั้งกองทุน BNB ETF โดย REX Shares เมื่อปลายเดือนที่แล้ว และการเกิดขึ้นของบริษัทที่มุ่งเน้นการถือครอง BNB ในคลังสินทรัพย์ เช่น B Strategy ที่ตั้งเป้าจะถือครอง BNB มูลค่าสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์ โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทลงทุนที่นำโดย Changpeng Zhao (CZ) และ Yi He
จับตาตัวเลขจ้างงาน-ชี้ทิศทางดอกเบี้ย
การปรับตัวลงของราคา BNB เกิดขึ้นก่อนการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของเดือนสิงหาคม ข้อมูลการจ้างงานนี้อาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้หรือไม่
ในขณะนี้ เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group แสดงให้เห็นว่าตลาดให้โอกาสที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps (0.25%) สูงเกือบ 90% ในขณะที่นักเทรดบน Polymarket ให้โอกาสอยู่ที่ 82%
ภาพทางเทคนิค แนวต้านแกร่งที่ $868-แนวรับแน่นที่ $850
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคโดย CoinDesk Research พบว่า BNB ได้พยายามพุ่งขึ้นจาก 860.30 ดอลลาร์ไปที่ 868.08 ดอลลาร์ แต่ก็สูญเสียแรงส่งอย่างรวดเร็ว โดยมีแรงขายอย่างหนักปรากฏขึ้นบริเวณ 867-868 ดอลลาร์ ซึ่งได้กลายเป็นแนวต้านสำคัญไปแล้ว หลังจากที่ไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ ราคาได้ย่อตัวลงมายังช่วง 850-855 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นบริเวณที่เริ่มมีแรงซื้อเข้ามาสนับสนุนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อราคาแตะระดับ 851.40 ดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่ายังมีอุปสงค์ที่แข็งแกร่งรอรับอยู่ที่ระดับราคาต่ำลงมา
ที่มา: coindesk