<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ถึงเวลา! Fed จ่อลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบปี หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณอันตราย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง หลังจากที่ต้องเผชิญกับการถกเถียงทางเศรษฐกิจอย่างหนักและการโจมตีอย่างต่อเนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในที่สุดธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ก็เตรียมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันพุธนี้

คาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า Fed จะประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเป้าหมายลง 0.25% ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ในกรอบ 4% ถึง 4.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2022 การเคลื่อนไหวครั้งนี้ ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว คาดว่าจะเป็นการเริ่มต้นของการลดดอกเบี้ยอีกหลายครั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม การลดดอกเบี้ยครั้งนี้ก็มาพร้อมกับ “คำเตือน” เกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเห็นที่เป็นเอกฉันท์มากขึ้นในหมู่กรรมการ Fed ว่า ตลาดแรงงานที่กำลังชะงักงันจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง

เบื้องหลังการตัดสินใจ เมื่อตลาดแรงงาน ‘ส่งสัญญาณอันตราย’

ในหลายๆ แง่ การที่ Fed ตัดสินใจลดดอกเบี้ยครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ ปัญหาเงินเฟ้อที่เคยพุ่งทะยานอย่างรุนแรงหลังยุคโควิดและเป็นสาเหตุให้ Fed ต้องขึ้นดอกเบี้ยในปี 2022 นั้น ได้ลดความร้อนแรงลงอย่างมีนัยสำคัญแล้ว

แม้ว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจะมีความกังวลว่านโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ ทั้งการลดภาษี, การขึ้นกำแพงภาษี และการกวาดล้างแรงงานข้ามชาติ อาจทำให้เงินเฟ้อกลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง แต่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ ความกังวลดังกล่าวได้ถูกบดบังด้วย “ความอ่อนแอ” ที่ชัดเจนขึ้นในตลาดแรงงาน โดยสหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเพียงน้อยนิดในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม และที่น่าตกใจคือตัวเลขในเดือนมิถุนายนกลับ “ติดลบ” ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020

“หัวใจสำคัญมันอยู่ที่สิ่งที่เราเห็นในตลาดแรงงาน ความเสื่อมโทรมที่เราเห็นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา” ซาราห์ เฮาส์ (Sarah House) นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Wells Fargo กล่าว “Fed รู้ดีว่าเมื่อตลาดแรงงานกลับตัว มันจะกลับตัวเร็วมาก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการให้แน่ใจว่าจะไม่ได้กำลังเหยียบเบรกเศรษฐกิจในขณะที่ตลาดแรงงานชะลอตัวลงแล้ว”

ทรัมป์กดดันหนัก-แต่ Fed ยันตัดสินใจเอง

แม้การลดดอกเบี้ยครั้งนี้จะเป็นที่พอใจของทรัมป์ แต่ก็ไม่น่าจะเพียงพอที่จะทำให้เขาหยุดวิพากษ์วิจารณ์ได้ เขากดดัน Fed มานานหลายเดือนให้ลดดอกเบี้ยลงแรงๆ โดยอ้างว่าควรจะอยู่ที่ระดับต่ำเพียง 1% และได้เรียกประธาน Fed อย่าง เจอโรม พาวเวล ว่าเป็น “ไอ้ทึ่มตัวจริง” บนโซเชียลมีเดีย

แรงกดดันของทรัมป์ไม่ได้มีอยู่แค่ในคำพูด เขายังได้เร่งรัดกระบวนการเพื่อส่งคนของตัวเองอย่าง สตีเฟน มิราน เข้าไปนั่งในบอร์ดของ Fed ให้ทันการประชุมในสัปดาห์นี้ และยังพยายามที่จะไล่ออก ลิซา คุก ซึ่งเป็นกรรมการอีกคนหนึ่งด้วย

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า แม้ทรัมป์จะกดดันอย่างหนัก แต่การตัดสินใจลดดอกเบี้ยของ Fed ในครั้งนี้น่าจะเกิดขึ้นอยู่แล้วไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม “นโยบายของประธานาธิบดีต่างหากที่กำลังสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่บีบให้ Fed ต้องลงมือ” อาร์ต โฮแกน (Art Hogan) หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดของ B. Riley Wealth กล่าว “ผมคิดว่าการที่ประธานาธิบดีออกมาพูดกดดัน Fed ให้ลดดอกเบี้ยนั้น ไม่มีผลกระทบอะไรเลยแม้แต่น้อย”

ที่มา: bbc