ตลาด Stablecoin กำลังอยู่ในช่วงที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ล่าสุดทำสถิติใหม่ด้วยมูลค่ารวมที่สูงถึง 283,200 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 9,021,336 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังทำสถิติผู้ใช้งานรายเดือนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 25,200,000 คน ตามข้อมูลจาก Token Terminal
ตัวเลขที่น่าประทับใจนี้สะท้อนให้เห็นว่า Stablecoin กำลังกลายเป็นส่วนสำคัญของระบบการเงินโลก ผู้คนจำนวนมากขึ้น หันมาใช้งานเงินดิจิทัลที่มีความมั่นคง
ส่วนการลงทุนในสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับ Stablecoin ก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2025 เพียงปีเดียวสามารถระดมทุนได้ถึง 621,810,000 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าปี 2024 ถึง 7 เท่าตัว จากเดิมที่มีเพียงแค่ 84 ล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงความสนใจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอนาคตของ Stablecoin อย่างชัดเจน

ซึ่งดีลการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดมาจาก OSL Group ซึ่งเป็นบริษัทในฮ่องกง ที่สามารถระดมทุนได้ถึง 300 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 9,556 ล้านบาท เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อนำเงินไปขยายธุรกิจในตลาดทั่วโลก
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตครั้งนี้คือ GENIUS Act กฎหมายที่ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ลงนามเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ได้มอบความชัดเจนด้านกฎระเบียบที่อุตสาหกรรม Stablecoin รอคอยมาอย่างยาวนาน
นักวิเคราะห์จาก Coinbase คาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดของ Stablecoin จะพุ่งสูงขึ้นไปถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2028 ซึ่งแม้จะฟังดูเป็นเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน แต่จากอัตราการเติบโตในปัจจุบัน ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
ขณะที่ Circle บริษัทผู้สร้างเหรียญ USDC ได้ประกาศขายหุ้นต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก (IPO) เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยสามารถระดมทุนได้สูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์
เมื่อรวมกับการระดมทุนของบริษัทอื่น ๆ เช่น Figure Technologies ซึ่งมุ่งเน้นด้าน Stablecoin แบบรวมศูนย์ (Centralized) และสินทรัพย์ในโลกแห่งความจริง (RWA) ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนรวมในอุตสาหกรรมนี้พุ่งทะลุ 2.4 พันล้านดอลลาร์ ในปีนี้
ความสำเร็จของ Circle สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ตลาดทุนเริ่มให้ความสนใจกับบริษัท Stablecoin อย่างจริงจัง และพร้อมที่จะทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้
ตลาดการเงินแบบดั้งเดิมก็ไม่ได้อยู่เฉย บริษัทผู้ให้บริการชำระเงินยักษ์ใหญ่อย่าง Stripe กำลังพัฒนา Stablecoin ของตัวเอง ในขณะที่ธนาคารระดับโลกอย่าง Citigroup, Wells Fargo และ Bank of America ก็เตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดนี้เช่นกัน
การเข้ามาของผู้เล่นรายใหญ่ในแวดวงการเงินเหล่านี้ เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า Stablecoin กำลังจะกลายเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจจริง
ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ดอลลาร์-ยูโร-หยวน ใครจะเป็นใหญ่ในวงการ Stablecoin กันแน่?
- LINE x KAIA พัฒนาซูเปอร์แอปคริปโต ลุ้นได้ใช้ Stablecoin เงินบาทในอนาคต
- บริษัทฟินเทค AnchorX เปิดตัว ‘Stablecoin หยวน’ ตัวแรกที่ได้รับกำกับดูแลจากรัฐบาลจีนอย่างเป็นทางการ
ที่มา : cryptopolitan

