<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Google ส่งแพ็ก ‘AI Plus’ ค่าบริการ ~160 บาท/เดือน ลุยกว่า 40 ประเทศ ชน ‘ChatGPT Go’ ของ OpenAI

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

“สงคราม AI” ได้ขยายสมรภูมิมาสู่ตลาดราคาประหยัดอย่างเต็มตัว เมื่อ Google ได้ประกาศขยายบริการแพ็กเกจ AI Plus ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ราคาถูกลง ไปยังกว่า 40 ประเทศทั่วโลกแล้ว รวมถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม (ยังไม่มีประเทศไทยในรายชื่อ)

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการเดินเกมรุกเพื่อชนกับแพ็กเกจ ChatGPT Go ของคู่แข่งอย่าง OpenAI โดยตรง หวังเจาะกลุ่มผู้ใช้งานในตลาดเกิดใหม่ที่มองว่าค่าบริการเดือนละ $20 (ประมาณ 730 บาท) นั้นสูงเกินไป

จ่าย ~160 บาท ได้อะไรบ้าง?

แพ็กเกจ AI Plus มีราคาอยู่ที่ประมาณ 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 160 บาท) ต่อเดือนในประเทศส่วนใหญ่ และในบางประเทศเช่นเม็กซิโกและเนปาล Google ยังมอบส่วนลด 50% ในช่วง 6 เดือนแรกอีกด้วย

ผู้ที่สมัครใช้บริการ AI Plus จะได้รับฟีเจอร์ระดับพรีเมียมดังนี้

  • เข้าถึงโมเดล AI ตัวท็อป ใช้งาน Gemini 2.5 Pro ได้
  • เครื่องมือสร้างภาพและวิดีโอ ใช้งาน Flow, Whisk, และ Veo 3 Fast
  • AI ในชีวิตประจำวัน ใช้ฟีเจอร์ AI ช่วยเขียนใน Gmail, Docs, และ Sheets
  • ผู้ช่วยวิจัยอัจฉริยะ ปลดล็อกความสามารถเพิ่มเติมใน NotebookLM
  • พื้นที่เก็บข้อมูล ได้รับพื้นที่ Google One เพิ่มอีก 200GB

สงครามราคา AI สู้กันเพื่อผู้ใช้ใน ‘ตลาดเกิดใหม่’

การขยายบริการของ Google ครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ OpenAI เพิ่งเปิดตัวแพ็กเกจราคาประหยัด ChatGPT Go (ราคาต่ำกว่า 5 ดอลลาร์) ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดเพื่อแย่งชิงผู้ใช้งานในตลาดใหม่ๆ

ทั้งสองบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างก็มีแพ็กเกจหลักที่ราคา $20 ต่อเดือนอยู่แล้ว แต่การเปิดตัวแพ็กเกจราคาถูกลงมานี้ เป็นกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการจ่ายเงินเพื่อใช้งานฟีเจอร์ AI ที่ดีขึ้น แต่ไม่สามารถจ่ายในราคาเต็มได้

ที่น่าสนใจคือ อินเดีย ซึ่งเป็นตลาดหลักที่ OpenAI เปิดตัว ChatGPT Go เป็นที่แรก กลับยังไม่มีชื่ออยู่ในรายชื่อการขยายบริการของ Google ในรอบนี้

การเปิดศึกราคาครั้งนี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้บริโภคทั่วโลก และเป็นสัญญาณว่าสมรภูมิต่อไปของสงคราม AI คือการทำให้เทคโนโลยีเข้าถึงได้ในวงกว้างและแย่งชิงฐานผู้ใช้ในตลาดเกิดใหม่นั่นเอง

ที่มา: X