ราคา Bitcoin (BTC) ได้ร่วงลงต่ำกว่าแนวรับจิตวิทยาสำคัญที่ 110,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี ท่ามกลางแรงเทขายที่เกิดขึ้นพร้อมกันทั้งในตลาดคริปโตและตลาดหุ้น
สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกปรับตัวลดลงมากกว่า 3% ขณะที่เหรียญอื่นๆ อย่าง Ethereum (ETH), Solana (SOL) และ Altcoin ส่วนใหญ่เผชิญกับการปรับฐานที่รุนแรงกว่า โดยราคา Ether ได้ร่วงลงเกือบ 5% หลุดระดับ 3,900 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม หลังจากกองทุน Ethereum ETF เผชิญกับแรงขายและมีเงินไหลออกสุทธิในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เจาะ 4 สาเหตุหลัก ทำไมตลาดถึงร่วงหนัก?
ซาเมอร์ ฮาส์น (Samer Hasn) นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสจาก XS.com ชี้ว่าแรงกดดันที่เกิดขึ้นต่อเนื่องนี้มีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน
- อาฟเตอร์ช็อก ‘วันล้างพอร์ต’ ตลาดยังคงเปราะบางอย่างมากจากเหตุการณ์ล้างพอร์ตครั้งใหญ่เมื่อวันจันทร์ ที่มีสถานะ Long ถูกบังคับปิดไปกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ “แรงซื้อใหม่ที่เข้ามายังไม่เพียงพอที่จะพยุงราคาเอาไว้ได้” ฮาส์นกล่าว ซ้ำร้าย ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมายังเกิดการล้างพอร์ตฝั่ง Long เพิ่มอีกกว่า 511 ล้านดอลลาร์ ยิ่งเป็นการซ้ำเติมความเชื่อมั่นของนักลงทุน
- ตลาดหุ้นส่งสัญญาณ ‘ปิดรับความเสี่ยง’ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เริ่มปรับตัวลงจากจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ได้สร้างบรรยากาศ “ระมัดระวัง” (cautious tone) ไปทั่วทั้งตลาดการเงิน นักลงทุนเริ่มกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในหุ้นกลุ่ม AI และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโต
- อาถรรพ์เดือนกันยา (September Seasonality) นักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่าเดือนกันยายนมักจะเป็นเดือนที่ตลาดคริปโตมีความผันผวนและมักจะเป็นขาลงตามสถิติในอดีต
- ภาวะ ‘สภาพคล่องถูกดูด’ (Liquidity Drain) ปัจจัยทางเทคนิคที่สำคัญคือการที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กำลัง “เติมเงิน” เข้าบัญชีของรัฐบาล (Treasury General Account) ด้วยการออกขายพันธบัตรจำนวนมาก กระบวนการนี้เปรียบเสมือนการ “ดูดสภาพคล่อง” หรือเงินสดออกจากระบบการเงิน เนื่องจากนักลงทุนจะนำเงินไปพักในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตร แทนที่จะนำมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง Bitcoin

ลามถึงหุ้นคริปโต
แรงเทขายในตลาดคริปโตได้ลุกลามไปยังหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องด้วย โดยราคาหุ้นของ Robinhood (HOOD) และ Coinbase (COIN) ต่างก็ปรับตัวลดลงกว่า 1% ในวันพฤหัสบดี ขณะที่หุ้นของ Strategy (MSTR) และ Circle (CRCL) ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน
ที่มา: Yahoo.finance

