<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Uptober มาแล้ว ! เปรียบเทียบสถิติของหลายปีที่ผ่านมา ทำไมตุลาคมถึงเป็นเดือนของตลาดกระทิง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อพูดถึงเดือนตุลาคมในโลกคริปโต คำว่า “Uptober” มักจะผุดขึ้นมาในหัวของเหล่านักเทรดส่วนใหญ่ เพราะนี่คือเดือนที่ตามสถิติแล้ว มักจะมอบผลตอบแทนอย่างงดงามให้กับผู้ที่ยังศรัทธาใน Bitcoin และตลาดคริปโต

เดือนนี้ไม่ใช่เพียงเดือนธรรมดา แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตุลาคมถูกยกให้เป็น เดือนแห่งการกลับตัวจากความสิ้นหวังในไตรมาส 3 ไปสู่ความหวังครั้งใหม่ในไตรมาสสุดท้ายของปี หลายครั้ง Uptober กลายเป็นประตูสู่ Bull Run ครั้งใหญ่ ที่สร้างเศรษฐีคริปโตหน้าใหม่มาแล้วนับไม่ถ้วน

แต่คำถามคือ มนต์ขลังของ Uptober จะกลับมาอีกครั้งในปีนี้หรือไม่? ราคาของ Bitcoin จะสามารถพุ่งทะยานไปได้ไกลแค่ไหน? หรือสุดท้ายแล้ว Uptober อาจเป็นเพียง “ตำนานที่ถูกเล่าซ้ำ” โดยนักเทรดรุ่นเก่า?

ในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านไปเจาะลึก สถิติเดือนตุลาคมตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา พร้อมถอดรหัสว่า Uptober 2025 มีโอกาสเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ?

เดือนแห่งตลาดกระทิง

เริ่มต้นกันด้วยข้อมูลสถิติของทาง Coinglass กับตาราง Bitcoin Monthly returns(%) ซึ่งมีการจัดทำมาแล้วกว่า 12 ปี โดยตารางดังกล่าวเผยให้เห็นว่าตั้งแต่มีการจัดทำผลวิจัยมานั้นกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เดือนตุลาคมแทบไม่เคยทำให้ราคาของบิทคอยน์ต้องผิดหวัง

หากลองสังเกตดี ๆ จะเห็นว่า ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา Bitcoin ไม่เคยปิดเดือนตุลาคมในแดนลบเลยสักครั้ง ราคามักยืนเหนือราคาเปิดตลาดได้เสมอ (ปัจจุบันอยู่ที่ $114,000) และที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ ผลตอบแทนในแต่ละปีส่วนใหญ่พุ่งทะยาน เป็นตัวเลขสองหลัก แทบทั้งหมด ยกเว้นเพียงปีเดียวคือ 2022 ซึ่งอยู่ท่ามกลางช่วง ตลาดหมีที่โหดร้ายที่สุดในรอบหลายปี ( FTX และ LUNA ล้ม) ทำให้ Uptober ปีนั้นจืดชืดกว่าที่ควรจะเป็น

เกิดอะไรขึ้นกับปี 2014 และ 2018 ?

หลายคนอาจสงสัยว่า หากคำว่า Uptober มีมนต์ขลังจริง ทำไมบางปีถึงไม่เกิดขึ้นตามที่คาดหวัง? คำตอบนั้นอยู่ที่สภาพตลาดในปี 2014 และ 2018 ซึ่งเป็นช่วงที่บิทคอยน์เพิ่งจบรอบขาขึ้นใหญ่ และกำลังเข้าสู่ขาลงเต็มตัว

ในปี 2014 ตลาดคริปโตต้องเผชิญกับ การล่มสลายของ Mt.Gox เว็บเทรดอันดับหนึ่งของโลกในเวลานั้น เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง ผู้คนแตกตื่นเทขายหนีเอาตัวรอด จน Uptober ในปีนั้นไม่อาจสร้างปาฏิหาริย์ได้

ส่วนปี 2018 เป็นช่วงเวลาที่ ฟองสบู่ ICO แตก หลายโปรเจกต์ที่เคยระดมทุนด้วยการออกโทเคนล้มระเนระนาด นักลงทุนจำนวนมากขาดทุนย่อยยับ ความเชื่อมั่นในตลาดหายไปเกือบหมด ทำให้ทั้งวงการเข้าสู่ภาวะสิ้นหวัง และ Bitcoin ก็ไม่สามารถสร้างเวทย์มนตร์ของ Uptober ได้เช่นกัน 

Super Bull Run

การที่บิทคอยน์สามารถปิดราคาเดือนกันยายนในแดนบวก ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เพราะสถิติที่ผ่านมาได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า นี่คือหนึ่งใน สัญญาณเริ่มต้นของ “Super Bull Run” หรือการวิ่งกระทิงครั้งใหญ่ ที่ราคาคริปโตมักจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงต่อเนื่องแบบฉุดไม่อยู่

ตามสถิติย้อนหลัง เมื่อใดก็ตามที่ Bitcoin ปิดเดือนกันยายนเป็นบวก สิ่งที่ตามมามักจะเป็น ไตรมาส 4 ที่เขียวสดใส โดยตลาดคริปโตจะปิดบวกต่อเนื่องแทบจะทั้งไตรมาส และสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยในระดับที่น่าตกใจ

  • 2015 : +81.24%
  • 2016 : +58.17%
  • 2023 : +56.9%
  • 2024 : +47.73%
  • เฉลี่ย Super Bull Run : +61.1%
  • เฉลี่ยทุกไตรมาส 4 : +47.73 % 

สิ่งนี้หมายความว่า หากราคาบิทคอยน์ยังคงเดินตามรอยเท้าประวัติศาสตร์เหมือนในอดีต ก็มีความเป็นไปได้สูงที่เราจะได้เห็นราคาทะยานขึ้นไปแตะกรอบ 168,000 – 183,000 ดอลลาร์ ภายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แต่สิ่งที่ทำให้เดือนตุลาคม 2025 แตกต่างจากทุกปี คือมันเต็มไปด้วยปัจจัยที่ทั้งหนุนและถ่วงตลาดไปพร้อมกัน

ในฝั่งข่าวดีนั้น แทบจะไม่มีปีไหนที่น่าตื่นเต้นเท่านี้เพราะเต็มไปด้วยปัจจัยหนุน เช่น การอนุมัติ Altcoin ETFs ที่เปิดทางให้นักลงทุนสถาบันเข้ามาง่ายขึ้น และแนวคิด คลังทุนสำรองคริปโตของภาครัฐ ที่สะท้อนการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับมหภาค ซึ่งล้วนเป็นเชื้อเพลิงสำคัญต่อการทำจุดสูงสุดใหม่ของราคา Bitcoin

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจาก การชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญ โดยครั้งก่อนเคยยืดเยื้อนานกว่า 30 วันและส่งแรงกดดันรุนแรงต่อตลาด หากสถานการณ์ซ้ำรอย Uptober ปีนี้ก็อาจไม่สามารถสร้างปรากฏการณ์ตลาดกระทิงได้ตามที่นักลงทุนคาดหวัง

ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง