ย้อนกลับไปเมื่อช่วงวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตลาดคริปโตได้ประสบกับการล้างพอร์ตนักเทรดฟิวเจอร์สครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยคาดว่ามีผู้เสียหายมากกว่า 1.7 ล้านคนจากเหตุการณ์นั้น และบางคนกำลังหาทางเอาคืนแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ
ข้อมูลจากต่างประเทศเปิดเผยว่า นักเทรดจำนวนหลายพันคนได้รวมตัวกันบนโซเชียลเพื่อพูดคุยถึงหนทางในการหาทางเยียวยาจากเหตุการณ์ข้างต้น โดยบางกลุ่มอ้างว่าสูญเงินไปหลัก $100 ล้านดอลลาร์
ตอนนี้ผู้เสียหายที่เคยประสบปัญหาจากเว็บเทรดกำลังรวมตัวกันแบบเงียบ ๆ เพื่อเตรียมการฟ้องร้องในกรณีที่เว็บเทรดอาจจะทำผิดกฎหมายหรือผิดสัญญา พวกเขามองว่า การรวมตัวเป็นกลุ่มและฟ้องร้องเป็นแบบ “ฟ้องหมู่” จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและช่วยให้สามารถส่งตัวแทนไปศาลได้ง่ายขึ้น เพราะบางคนอาจไม่มีทุนในการฟ้องเอง การรวมตัวทำให้โอกาสชนะจากการฟ้องบริษัทใหญ่ ๆ ก็สูงขึ้น
Arthur Cheong ผู้ก่อตั้ง Defiance Capital ผู้มีประสบการณ์ในการฟ้องร้องมาก่อน ก็เปิดเผยว่า หากคุณเป็นหนึ่งในผู้เสียหายจากเหตุการณ์วันที่ 10 ต.ค. และต้องการคำแนะนำ เขาพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกเมื่อ
เป้าหมายหลักในการฟ้องครั้งนี้คือ Binance ซึ่งเป็นเว็บเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะในระหว่างเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ราคาของเหรียญบางตัวใน Binance ร่วงลงอย่างหนักถึง 99.9% ทำให้นักลงทุนจำนวนมากต้องเผชิญกับการถูกล้างพอร์ต ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่เกิดขึ้นบ่อยในเว็บเทรดอื่น ๆ โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นใน Binance หลายคนมองว่าการที่ Binance ออกมาจ่ายเงินเยียวยาชดเชยให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ อาจจะเป็นการยอมรับผิดแบบเนียน ๆ และเป็นหลักฐานสำคัญในกระบวนการฟ้องร้อง แม้ว่าทาง Binance อาจจะคืนเงินให้ด้วยความหวังดีและไม่ได้มีความผิดอะไรก็ตาม
ในขณะเดียวกัน Evgeny Gaevoy ซีอีโอของ Wintermute เปิดเผยว่า การชดเชยเงินคืนของ Binance อาจจะไม่เพียงพอ โดยเขากล่าวว่า Wintermute ถูกชำระบัญชีอัตโนมัติ (Auto-DeLeveraged หรือ ADL) ที่ราคาแปลกประหลาด ซึ่งเขามองว่าไม่มีเหตุผลหรือความสมเหตุสมผล เขากำลังพิจารณาทางเลือกทางกฎหมายของเขาอยู่
ปัจจุบัน Binance ได้จ่ายเงินชดเชยผู้เสียหายไปแล้วกว่า $700 ล้านดอลลาร์ โดยแบ่งออกเป็น 4 ชุด ได้แก่ $283 ล้าน เพื่อคืนเงินให้กับนักเทรดที่เผชิญปัญหาราคาคู่เหรียญคริปโตหลุด peg เช่น USDE, BNSOL, WBETH โดยแบ่งออกเป็น $100 ล้านสำหรับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ, $300 ล้านสำหรับเยียวยานักเทรดที่พอร์ตแตก, และอีก $45 ล้าน สำหรับนักลงทุนเหรียญมีม
ที่มา : Protos

