วงการคริปโตสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อ Bitwise บริษัทจัดการสินทรัพย์ยักษ์ใหญ่ ประกาศเปิดตัว Bitwise Solana Staking ETF (BSOL) บนตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ในวันที่ 28 ต.ค. 2025 ตามมาด้วย Grayscale ที่จะเปิดตัว Solana ETF ในวันถัดไป
ความพิเศษของ BSOL อยู่ที่การเป็นกองทุน ETF ตัวแรกที่ให้ “การเข้าถึง SOL แบบ Spot โดยตรง 100%” นั่นหมายถึงกองทุนจะถือเหรียญ Solana จริงไม่ใช่สัญญาอนุพันธ์ และที่สำคัญคือมีคุณสมบัติในการทำ Staking เพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมให้กับนักลงทุน
การเปิดตัว Solana ETF ของ Bitwise เกิดขึ้นพร้อมกับความเคลื่อนไหวของบริษัทจัดการสินทรัพย์อื่นๆ ที่พร้อมใจกันเข้าสู่สมรภูมิ Crypto ETF โดย Canary Capital ประกาศแผนจะจดทะเบียน Litecoin ETF และ HBAR ETF บน Nasdaq ในวันเดียวกัน
ในขณะที่ Solana ETF ของ Grayscale มีกำหนดเปิดตัวบน NYSE ในวันที่ 29 ต.ค. 2025 แสดงให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาด Crypto ETF
ด้าน Eric Bulchunas ยืนยันแล้ว ตลาดหลักทรัพย์เพิ่งประกาศรายการจดทะเบียนสำหรับ Bitwise Solana, Canary Litecoin และ Canary HBAR ที่จะเปิดตัวในวันพรุ่งนี้ และ Grayscale Solana จะเปลี่ยนสถานะในวันถัดไป สมมติว่าไม่มีการแทรกแซงนาทีสุดท้ายจาก SEC ดูเหมือนว่าเรื่องนี้กำลังจะเกิดขึ้นจริง
ด้าน Eric Balchunas นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ได้ออกมายืนยันเรื่องนี้ โดยระบุเสริมว่า ตราบใดที่ ก.ล.ต. (SEC) ไม่เข้ามาแทรกแซง กองทุนคริปโตเหล่านี้ ก็จะเกิดขึ้นจริงอย่างแน่นอน

ทำไม ETF ถึงเปิดตัวได้ท่ามกลางการปิดตัวของรัฐบาลสหรัฐฯ ?
คำถามที่หลายคนสงสัยคือ Crypto ETF จำนวนมากสามารถเปิดตัวได้อย่างไร ในขณะที่ SEC (คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ) ยังคงดำเนินการภายใต้ “แผนการปิดตัว” (Shutdown Plan) ซึ่งจำกัดจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน
กลไกสำคัญอยู่ที่แนวทางที่ SEC ชี้แจงไว้ในช่วงที่เกิดการปิดตัว โดยระบุว่าบริษัทที่ต้องการเข้าจดทะเบียนต่อสาธารณะสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนแบบ S-1 โดยไม่ต้องใส่ “การแก้ไขการชะลอการบังคับใช้” (Delaying Amendment) ซึ่งตามกฎหมายแล้วหมายความว่า หาก ETF ไม่มีการแก้ไขดังกล่าว จะสามารถมีผลบังคับใช้และเปิดตัวได้เองโดยอัตโนมัติภายใน 20 วัน นับจากยื่นแบบฟอร์ม S-1 ฉบับสุดท้าย
นอกจากนี้ การที่ SEC เคยอนุมัติมาตรฐานการเข้าจดทะเบียนที่เสนอโดยตลาดหลักทรัพย์สามแห่งไปก่อนหน้านี้ ทำให้ผู้ที่ต้องการเปิดตัว Crypto ETF ไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจาก SEC โดยตรงอีกครั้ง หากเข้าตามมาตรฐานที่อนุมัติแล้ว เพียงแค่ยื่นแบบฟอร์ม S-1 ฉบับสุดท้ายและแบบฟอร์ม 8-A เท่านั้น ซึ่งมีผู้ออกผลิตภัณฑ์หลายรายเริ่มทยอยยื่นเอกสารเหล่านี้เข้ามาแล้วในขณะนี้
ตลาดคริปโตจึงกำลังจับตาดูว่า จะมี Crypto ETF อีกกี่รายการที่จะเปิดตัวตามมาอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสำคัญนี้ เพราะช่องว่างในระหว่างการปิดตัวของรัฐบาลอาจกลายเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ออกผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว
ที่มา:theblock

