วันนี้ (29 ต.ค. 2568) เป็นวันตัดสินใจครั้งสำคัญของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ซึ่งจะมีการประกาศผลการประชุมในเวลา 14:00 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออก (ET) ตามมาด้วยการแถลงข่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เจอโรม พาวเวลล์) ในเวลา 14:30 น. ET
ตลาดคาดการณ์อย่างท่วมท้นว่า Fed จะ ลดอัตราดอกเบี้ย 25 Basis Points (0.25%) โดยข้อมูลจาก CME บ่งชี้ว่าโอกาสอยู่ที่กว่า 97.8% ทำให้การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยนี้ “ได้ถูกกำหนดราคาไปแล้ว” (Priced In) ดังนั้น สิ่งที่จะขับเคลื่อนตลาดหุ้น, ตราสารหนี้, และโดยเฉพาะ คริปโทเคอร์เรนซี จึงอยู่ที่รายละเอียดและการสื่อสารของ Fed
3 ปัจจัยสำคัญที่จะชี้ชะตาตลาดวันนี้
นักลงทุนควรจับตา 3 ประเด็นหลักที่นอกเหนือไปจากการประกาศลดดอกเบี้ย:
1. ถ้อยแถลงของ Fed (The Fed Statement)
- ประเด็นที่ต้องจับตา: ตลาดจะมองหาคำแนะนำเกี่ยวกับทิศทางนโยบายในอนาคต หากถ้อยแถลงระบุว่าการลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นเพียง “การปรับตัวกลางวัฏจักร” (Mid-Cycle Adjustment) นั่นหมายถึง Fed มองว่าเป็นเพียงการปรับครั้งเดียว ซึ่งอาจทำให้ตลาดนิ่งหรือปรับตัวลงเล็กน้อย
- สัญญาณ Dovish (ผ่อนคลาย): หากภาษาในถ้อยแถลงเริ่มเน้นย้ำถึง ความเสี่ยงด้านการเติบโตที่เพิ่มขึ้น (Growth Risks Increasing) จะส่งสัญญาณว่าอาจมีการลดดอกเบี้ยตามมาอีก
- ผลต่อตลาด: ถ้อยแถลงที่ดูผ่อนคลายจะกดดันให้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 2 ปี ลดลง และทำให้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง ซึ่งเป็นสัญญาณแรกของการฟื้นตัวของสภาพคล่อง
2. การยุติการปรับลดงบดุล (Quantitative Tightening: QT)
- ประเด็นที่ต้องจับตา: ตลาดคาดว่า Fed จะประกาศ ยุติโครงการ QT อย่างเป็นทางการ ซึ่งหมายความว่า Fed จะหยุดดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบการเงิน
- ความสำคัญ: นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่สำคัญที่สุดในรอบนี้ เพราะเป็นการส่งสัญญาณว่า Fed จะ ไม่ดึงสภาพคล่องออกไปอีก ซึ่งทางประวัติศาสตร์แล้ว การหยุด QT มักเป็นเชื้อเพลิงสำคัญที่จุดกระแส Risk-On ในสินทรัพย์เสี่ยง (Risk Assets) ทั้งหุ้นเทคโนโลยีและ Bitcoin
- ข้อควรระวัง: นักวิเคราะห์บางส่วนเน้นย้ำว่า การยุติ QT ไม่เท่ากับการเริ่ม QE (Quantitative Easing) หรือการอัดฉีดสภาพคล่องขนาดใหญ่ทันที ซึ่ง QE มักจะเกิดขึ้นตามหลังวิกฤตการณ์ทางการเงินที่ร้ายแรงกว่านี้ (เช่น วิกฤตสินเชื่อ Repo ในปี 2019)
3. น้ำเสียงของประธานพาวเวลล์ (Powell’s Press Conference: 14:30 น. ET)
- ประเด็นที่ต้องจับตา: น้ำเสียงของพาวเวลล์จะส่งผลต่อตลาดทันทีที่เขาเริ่มพูด
- โทนผ่อนคลาย (Dovish): หากพาวเวลล์ยอมรับว่าเศรษฐกิจเติบโตช้าลง หรือแสดงความมั่นใจว่า เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม จะเป็นตัวกระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์การลดดอกเบี้ยที่ลึกขึ้นในอนาคต ทำให้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดิ่งลง และ คริปโท/หุ้นพุ่งขึ้น (Rally)
- โทนระมัดระวัง (Cautious/Hawkish): หากพาวเวลล์ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการให้คำมั่นต่อการลดดอกเบี้ยในอนาคต คาดว่าตลาดจะอยู่ในภาวะ นิ่ง หรือ รวมฐาน (Consolidate) รอความชัดเจนต่อไป
สรุปสำหรับ Crypto และ Risk Assets
แม้ว่าการลดดอกเบี้ย 25 bps จะเป็นเพียง “พาดหัวข่าว” แต่โอกาสที่ตลาดจะ พุ่งขึ้น (Parabolic) ตามที่บางฝ่ายคาดหวังนั้นขึ้นอยู่กับว่า Fed จะใช้ถ้อยคำที่ผ่อนคลายเพียงพอที่จะ บ่งชี้ถึงการลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง และ ประกาศยุติ QT ได้อย่างชัดเจนหรือไม่
- Bitcoin ที่ซื้อขายอยู่ราว $113,000 จะเป็นดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของสภาพคล่องโลก โดยเฉพาะหลังจากที่มีสัญญาณความตึงเครียดในตลาดเงิน เช่น การใช้ Standing Repo Facility (SRF) ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจบีบให้ Fed ต้องกลับมา “พิมพ์เงิน” (QE) หากตลาดการเงินมีปัญหาหนักจริง ๆ ในอนาคต
ที่มา: @milesdeutscher , @Cipher2X , @ DrProfitCrypto

