<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“Larry Fink” ซีอีโอ BlackRock เผย ทองคำ-คริปโต คือสินทรัพย์ที่ทุกคนจะวิ่งหาเมื่อเกิดความกลัว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Larry Fink ซีอีโอของ BlackRock ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า นักลงทุนกำลังวิ่งเข้าไปหาโลหะมีค่าและคริปโตเคอร์เรนซี เพราะทั้งสองเป็น “สินทรัพย์แห่งความหวาดกลัว” ซึ่งความกลัวที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้ก็คือปัญหาหนี้ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐฯที่จะสูงถึง 143% ของ GDP ภายในปี 2030

เขายังกล่าวอีกว่าสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนต่างจับจองเป็นเจ้าของสินทรัพย์เหล่านี้ เพราะ “คุณกลัวการลดทอนมูลค่าของสินทรัพย์ที่คุณมีอยู่ คุณกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินของคุณ คุณกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงทางกายภาพของคุณ”

คำกล่าวของ Fink ในปัจจุบันนั้นขัดแย้งกับความเห็นของเขาในอดีตที่เคยตีตราว่า Bitcoin เป็นเงินของโจร แสดงให้เห็นถึงการยอมรับในตัวของ Bitcoin ที่มากขึ้นจากนักลงทุนสถาบัน

ย้อนกลับไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน Fink ยังเคยกล่าวด้วยว่าคริปโตก็มีหน้าที่เหมือนกับทองคำ เป็นสินทรัพย์ทางเลือก แต่ดูเหมือนว่าสำหรับ BlackRock นั้น Bitcoin อาจไม่ได้เป็นเพียงแค่ทางเลือกเท่านั้น เพราะกองทุน iShare Bitcoin Trust (IBIT) ของพวกเขาซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ถือเป็นกองทุนที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ตัวหนึ่ง และยังสร้างผลกำไรให้กับพวกเขาเป็นกอบเป็นกำ 

ด้าน Fabian Dori หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของ Sygnum Bank เผยว่าตอนนี้โลกของกระลงทุนได้เกิดกระแส “Debasement trade” ที่นักลงทุนโยกย้ายสินทรัพย์จากเงินเฟียตไปยังสิ่งที่แข็งแกร่งกว่า เพราะรู้สึกว่ากำลังซื้อนั้นลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

ในขณะนี้เรากำลังเห็นนักลงทุน , ธนาคาร และสถาบันการเงินกำลังเริ่มใช้ Bitcoin ในการเฮดจ์ แต่ความผันผวนตลอด 24 ชั่วโมงก็นำมาซึ่งการบริหารความเสี่ยงที่ยากขึ้น

อย่างไรก็ดี Nic Puckrin นักวิเคราะห์คริปโต กลับชี้ว่า Bitcoin นั้นเป็นสินทรัพย์แห่งความกลัวมาตั้งแต่จุดกำเนิดของมันในปี 2008 ที่ระบบการเงินเกิดวิกฤต และจุดประสงค์ของ Bitcoin ก็ถูกสร้างมาเพื่อรับมือกับการเสื่อมค่าของเงินเฟียตมาตั้งแต่ต้น


ที่มา : Decrypt