<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อย่างหวังว่าจะอุ้ม! Michael Saylor ยืนยันชัดไม่มีแผนเทคโอเวอร์บริษัทคลัง Bitcoin เจ้าอื่น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อไม่นานมานี้ Michael Saylor ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าบริษัทของเขาอย่าง Strategy ไม่แนวคิดในการเข้าซื้อกิจการบริษัทที่ตั้งคลังสำรอง Bitcoin เจ้าอื่น ๆ เนื่องจากความเสี่ยงสูง

Saylor กล่าวว่า พวกเขาไม่มีแผนที่จะควบรวมกิจการบริษัทอื่นแม้ว่ามันอาจจะดูมีศักยภาพก็ตาม เนื่องจากการซื้อกิจการนั้นล้วนเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ในช่วงแรกที่ทำมันอาจดูดี แต่ครึ่งปีหลังจากนั้นอาจพลิกเป็นหลังมือ แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ด้วยเช่นกัน

สาเหตุที่ทำให้ Saylor ออกมาพูดเช่นนี้เป็นผลมาจากความเห็นของนักวิเคราะห์ที่เสนอว่าบริษัทคลัง Bitcoin ควรเข้าซื้อบริษัทคู่แข่งเพราะผู้เล่นเริ่มมีจำนวนมากเกินไปในการแข่งขันนี้

Strive ถือเป็นบริษัทแลกที่มีการควบรวมกิจการเข้ากับ Semler Scientific นั่นทำให้พวกเขากลายมาเป็นบริษัทผู้ถือ Bitcoin อันดับที่ 12 ของโลกไปโดยปริยายจากดีลเข้าซื้อครั้งดังกล่าว

ขณะเดียวกัน Phong Le ซีอีโอคนปัจจุบันของ Strategy กล่าวเสริมว่ามันเป็นเรื่องยากมากสำหรับบริษัทซอฟต์แวร์อย่าง Strategy ที่จะทำการควบรวมกิจการ อีกทั้งยังระบุอีกว่า มันมักจะมีเบื้องหลังอะไรอยู่เสมอสำหรับการเข้าซื้อสิ่งที่คุณสนใจ และบริษัทคลัง Bitcoin ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

Saylor มองว่าพวกเขามุ่งเน้นแต่การเก็บ Bitcoin ก็เพียงพอแล้วเพราะทำให้ผู้คนสามารถวิเคราะห์ได้ง่ายกว่ามากว่า Bitcoin ที่ซื้อมานั้นเป็นการเพิ่มหรือลดทอนมูลค่าของบริษัท

ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาโฟกัสมากที่สุดคือการทำ ธุรกรรมดิจิทัลที่รวดเร็วและโปร่งใส เป็นการขายเครดิตดิจิทัลเพื่อนำมาซื้อ Bitcoin และ Saylor คิดว่ามันเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญของบริษัท ที่มีโมเดลธุรกิจโปร่งใส และคาดการณ์ได้ชัดเจน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อนักวิเคราะห์หุ้นและเครดิตในการประเมินคุณภาพของบริษัท

อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ทาง S&P Global Ratings ได้ให้คะแนนหุ้นของ Strategy อยู่ในเกรด B- หรือ junk bonds ซึ่งตีความเป็นนัยว่าเป็นบริษัทที่ไม่น่าลงทุน   แต่ Phong Le แย้งว่าที่เป็นเช่นนั้นเพราะพวกเขาไม่ได้นำ Bitcoin ที่ถือมาคำนวนต่างหาก

ที่มา : Cointelegraph