บริษัท Strategy (SAY) ผู้นำด้านการถือครอง Bitcoin ในคลังทรัพย์สิน ได้ประกาศซื้อ Bitcoin (BTC) เพิ่มเติมอีก 397 BTCด้วยเงินสดประมาณ 47.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2025 บริษัทถือครอง BTC รวมทั้งสิ้น 641,205 BTC โดยมีราคาซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 114,771 ดอลลาร์ต่อ BTC
การประกาศครั้งนี้ได้จุดชนวนให้เกิดการถกเถียงและตั้งคำถามอย่างหนักในชุมชนคริปโต เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติหลายประการ
ปริศนาที่ 1: ราคาซื้อที่สูงเกินจริง
ผู้ใช้งานจำนวนมากในแพลตฟอร์ม X (Twitter) แสดงความประหลาดใจและตั้งคำถามถึงราคาซื้อเฉลี่ยที่ $114,771 ต่อ BTCเนื่องจากราคา Bitcoin ในตลาดสปอตช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้ขึ้นไปแตะระดับนั้นเลย ความสงสัยนี้ได้นำไปสู่การคาดการณ์ว่า Strategy อาจไม่ได้ซื้อผ่านตลาด Exchange ทั่วไป แต่เป็นการซื้อขายแบบ Over-The-Counter (OTC) หรือแบบ Peer-to-Peer (P2P) โดยตรงจากวาฬ (Whales) หรือนักลงทุนรายใหญ่ การซื้อขายลักษณะนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาตลาดสปอตโดยตรง ซึ่งเป็นคำตอบว่า “ทำไมราคาถึงไม่ขยับ”
ปริศนาที่ 2: ราคาซื้อที่สวนทางกับตลาด
อีกคำถามที่ร้อนแรงคือ “ทำไมราคา BTC สปอตถึงยังคงลดลง ทั้งที่มีบริษัทคลังทรัพย์สินขนาดใหญ่เข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง?”คำตอบจากนักวิเคราะห์แตกออกเป็นสองฝั่ง:
- การควบคุมราคาและการเทขายของ OG: นักลงทุนบางส่วนเชื่อว่าการซื้อขาย OTC เป็นกลไกที่ช่วย ควบคุมราคา ไม่ให้เคลื่อนไหว โดยผู้ถือครอง Bitcoin รุ่นแรก (OGs) กำลังใช้การซื้อของบริษัทเหล่านี้เป็น “สภาพคล่องทางออก” (Exit Liquidity) ในการขายสินทรัพย์ของตนออกไปอย่างเงียบ ๆ
- การสะสมระยะยาว (Silent Accumulation): การซื้อครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของ Strategy ที่มีต่อ Bitcoin ในระยะยาว โดยมีนักวิเคราะห์ชี้ว่า การซื้อเพิ่มนี้เป็นการ “โหลดกระสุนเพิ่ม” (Loaded more ammo) ถึง $45 ล้านดอลลาร์ และเชื่อว่าบริษัทกำลังสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับผู้ถือหุ้นด้วยการสะสม Bitcoin ต่อหุ้นในอัตรา 20% ถึง 30% ต่อปี
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า Strategy ยังได้เพิ่มสถานะเงินสดของบริษัทอีก $20 ล้านจากการดำเนินการนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าอาจเป็นการเตรียมการเพื่อปรับปรุงอันดับเครดิตของบริษัทในอนาคต การซื้อขายครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นแค่การเข้าซื้อ BTC เท่านั้น แต่ยังเป็นกลยุทธ์ทางการเงินที่มีความซับซ้อนและเต็มไปด้วยปริศนาที่ส่งผลต่อตลาดคริปโตในปัจจุบัน
ที่มา: @saylor