ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้แสดงปฏิกิริยาที่สวนทางกับความรู้สึกปกติ โดยดัชนีล่วงหน้าพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรงทันทีที่ทราบข่าวว่า อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นสู่ 4.4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ในรายงานการจ้างงานเดือนกันยายน 2025 ที่ถูกเผยแพร่ล่าช้า การเคลื่อนไหวนี้ตอกย้ำถึงแนวคิดที่ว่า “ข่าวร้ายคือข่าวดี” สำหรับตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
นักวิเคราะห์ระบุว่า ปฏิกิริยาของตลาดไม่ได้เกิดจากความยินดีต่อการว่างงานที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นผลมาจาก กลไก Fed Put แบบคลาสสิก สัญญาณความอ่อนแอที่ชัดเจนในตลาดแรงงาน บีบให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต้องพิจารณา ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจัง เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจหลัก (Main Street)
เมื่อ Fed ลดดอกเบี้ยเพื่อ “ช่วย Main Street” ผลที่ตามมาคือ สภาพคล่องในระบบจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมที่ถูกลง ซึ่งเป็นการเติมเชื้อเพลิงเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยง (Risk Assets) ทั้งในหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และที่สำคัญคือ ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี นักลงทุนเชื่อว่าการที่อัตราดอกเบี้ยลดลงจะช่วยลดความกดดันต่อ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ที่มีความผันผวนสูง ซึ่งอาจนำไปสู่การฟื้นตัวของตลาดคริปโตอย่างรวดเร็ว
รายงานนี้เผยให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่กำลังถึงจุดสูงสุด โดยระบุว่า สหรัฐฯ มี “สองระบบเศรษฐกิจ” คือ ผู้ถือครองสินทรัพย์ (Asset Owners) และ ผู้ที่ไม่ถือครองสินทรัพย์ (Non-Asset Owners) การที่ Fed ถูกบีบให้ผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน จะยิ่งส่งผลให้นักลงทุนที่ถือครอง Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลได้ประโยชน์อย่างมหาศาล เนื่องจากเงินทุนที่ถูกปลดปล่อยจากระบบการเงินดั้งเดิมจะเริ่มมองหาแหล่งทำกำไรที่มีศักยภาพสูงสุดในโลกคริปโต.
ที่มา: @KobeissiLetter