กระแสคาดการณ์ “ลดดอกเบี้ย” ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กำลังร้อนแรงขึ้นทั่วทั้งวอลล์สตรีท หลังจากทั้งสถาบันการเงินรายใหญ่และตลาดต่างเทน้ำหนักไปในทิศทางเดียวกันว่า การประชุมวันที่ 9–10 ธันวาคมนี้ จะมีการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยส่งท้ายปี 2025
Bank of America (BofA) เป็นหนึ่งในสถาบันยักษ์ใหญ่ที่ออกมาปรับมุมมองล่าสุด โดยคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ หลังประเมินว่า ตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแรง และเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายส่งสัญญาณเชิงผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งสวนทางกับมุมมองก่อนหน้านี้ที่ BofA เคยมองว่า เฟดจะ “คงดอกเบี้ย” ไปจนถึงต้นปีหน้า
นอกจากนี้ BofA ยังคาดว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยเพิ่มอีก 2 ครั้ง ในปี 2026 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยสุดท้าย ลดลงมาอยู่ที่ช่วง 3.00%–3.25%
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของ BofA ระบุว่า การคาดการณ์ดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงตัวเต็งประธานเฟดคนใหม่ ที่ขณะนี้ Kevin Hassett ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งสำคัญ
มุมมองของ BofA สอดคล้องกับบรรยากาศตลาดที่กำลังเอียงไปทาง “ลดดอกเบี้ย” หลังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง John Williams ประธานเฟดนิวยอร์กส่งสัญญาณว่า การปรับนโยบายอาจเกิดเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้
ฝั่ง J.P. Morgan ซึ่งเคยมองว่า เฟดจะคงดอกเบี้ยยาวถึงต้นปีหน้า ก็ออกมาปรับมุมมองใหม่เช่นเดียวกัน โดยประเมินว่า เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคมเช่นกัน ขณะที่ Goldman Sachs Research ยังคงคาดการณ์เดิมว่าเฟดพร้อมลดดอกเบี้ยทันทีที่เห็นตลาดแรงงานอ่อนแรงต่อเนื่อง
ด้านข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ยิ่งตอกย้ำความคาดหวังในตลาด โดยเทรดเดอร์ให้น้ำหนักสูงถึง 87.2% ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า แม้ว่ายังมีบางสถาบัน เช่น Morgan Stanley และ Standard Chartered ที่ประเมินว่าเฟดอาจเลือกคงดอกเบี้ยก่อน

ทั้งหมดนี้ทำให้การประชุมเฟดวันที่ 9–10 ธันวาคม กลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ตลาดทั่วโลกจับตามากที่สุด เพราะจะเป็นตัวกำหนดทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ และอาจส่งแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ต่อทั้งตลาดการเงินและสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงคริปโต
ที่มา:Reuters

