Michael Saylor ประธานกรรมการบริหารของ Strategy (เดิมชื่อ MicroStrategy) สร้างความฮือฮาในงาน Binance Blockchain Week ด้วยการประกาศว่า Bitcoin ได้ก้าวข้ามสถานะจากสินทรัพย์เก็งกำไรมาเป็น ทุนดิจิทัล อย่างเต็มตัว
โดยเขายกตัวเลขเปรียบเทียบว่าปัจจุบันเครือข่าย Bitcoin ใช้พลังงานถึง 24 กิกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่ากับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 24 แห่ง และมากกว่าพลังงานที่ใช้ในการปฏิบัติการของกองทัพเรือสหรัฐฯ ทั้งหมด นอกจากนี้ เขายังระบุว่ากำลังการประมวลผลรวมของ Bitcoin นั้นเหนือกว่าศูนย์ข้อมูลของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Microsoft และ Google รวมกันเสียอีก
ธนาคารกลับลำ 180 องศา เลิกต่อต้านหันมาเข้าร่วม
Saylor ชี้ให้เห็นถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในแวดวงการเงินสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่วางตัวเป็น ประธานาธิบดี Bitcoin และการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่สายคริปโตอย่าง Scott Bessent และ Paul Atkins เข้าสู่ตำแหน่งสำคัญ
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนี้ส่งผลให้ธนาคารยักษ์ใหญ่ที่เคยตั้งแง่รังเกียจคริปโตต้องกลับลำนโยบาย โดยปัจจุบัน 8 ใน 10 ธนาคารชั้นนำของสหรัฐฯ เช่น JPMorgan, Citi, Wells Fargo และ Bank of America ได้เริ่มให้บริการรับฝากสินทรัพย์และปล่อยกู้คริปโตอย่างเป็นทางการแล้ว
Strategy เปิดตัว Stretch ผลิตภัณฑ์การเงินที่สร้างโดย AI
ในส่วนของบริษัท Strategy ซึ่งปัจจุบันถือครอง Bitcoin อยู่ราว 650,000 BTC และตั้งเป้าจะมีสินทรัพย์มากกว่าบริษัทใน S&P 500 ทั้งหมด
ในงานนี้ Saylor ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์สินเชื่อดิจิทัลชุดใหม่ ได้แก่ Strife, Stride และ Stretch ความพิเศษอยู่ที่ Stretch ซึ่ง Saylor เคลมว่าเป็นหุ้นบุริมสิทธิแบบอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตัวแรกของโลกที่ถูกออกแบบโดยความช่วยเหลือของ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หลังจากที่ทีมกฎหมายและนายธนาคารเคยบอกว่าเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาไม่ได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาดเงินทั่วไปที่ให้ผลตอบแทนเพียง 3%
ที่มา: yahoo

