<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้เชี่ยวชาญชี้ Memecoin ยังไม่ตาย! อุตสาหกรรมนี้จะหวนคืน แต่อาจกลับมาในรูปแบบใหม่

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

2025 ถือเป็นปีที่เลวร้ายสำหรับวงการเหรียญมีม เมื่อเทียบกับกระแส “Supercycle” ที่ตลาดคึกคักเป็นอย่างมาก ในช่วงปี 2024 ด้วยการมาถึงของเหรียญมีมสุดร้อนแรงไม่ว่าจะเป็น Moodeng , Fartcoin , Pnut หรือ Official Trump

ปัจจุบัน แม้กระแสความคึกคักเหรียญมีมจะเหลือไว้เพียงแต่อดีตที่เคยรุ่งโรจน์แต่ผู้เชี่ยชาญอย่าง Keith A. Grossman จาก Moonpay กลับมองว่าอุตสาหกรรมภาคส่วนนี้มันยังไม่ถึงจุดจบและอาจกลับมาในรูปแบบใหม่

Grossman มองว่าการที่กระแสซบเซาและตลาดไม่เป็นใจไม่ได้ทำให้เหรียญมีมตายลง เพราะนวัตกรรมที่แท้จริงของเหรียญมีมคือการที่ “กระแสความสนใจ” ถูกนำมาแปลงให้เป็นโทเคนได้โดยง่าย และมีต้นทุนที่ถูกผ่านการใช้บล็อกเชน ซึ่งเป็นการเปิดให้ทุกคนเข้าถึงอย่างเท่าเทียมตามทฤษฏี เศรษฐกิจความสนใจ (Attention Economy)

เขามองว่าแต่เดิม “ความสนใจ” ถูกนำไปใช้ในการหารายได้ด้วยน้ำมือของแพลตฟอร์ม หรือ แบรนด์เท่านั้น หมายความคนอื่นๆกำลังสร้าง “คุณค่า” ขึ้นมาแจกฟรีๆ ยกตัวอย่างเช่น ยอดไลค์ , กระแสฮิตต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถแปลงเป็นเงินได้ในยุคปัจจุบันแต่ผู้ที่ทำกำไรมีแต่รายใหญ่ไม่มีรายย่อย

Grossman เปรียบเทียบตลาดเหรียญมีมในขณะนี้เหมือนยุคเริ่มต้นของโซเชียลมีเดียในปี 2000s ที่ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกัน ก่อนที่จะกลายเป็นสิ่งที่ใช้งานกันทั่วโลกในภายหลัง

ความเป็นจริงอันโหดร้าย

ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น เหรียญมีมนั้นโดดเด่นเป็นอย่างมากในปี 2024 แต่แล้วฟองสบู่ก็แตก หลังจากที่มีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นอย่างเรื่องคนวงใน และการ Rugpull โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ที่เกิดกับเหรียญมีมที่ดูน่าเชื่อถืออย่าง $TRUMP ที่มูลค่าร่วงลงกว่า 90% ในช่วงเวลาสั้นๆ จนเหรียญมีมยิ่งหมดความน่าเชื่อถือ 

ขณะเดียวกัน Javier Milei ประธานาธิบดีของอาร์เจนตินา ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มีความข้องเกี่ยวกับเหรียญมีมจนเป็นข่าวอื้อฉาวกับคดีของ Libra rug pull ที่ทำให้มีคนจำนวนมากสูญเสียเงินไปอย่างมหาศาล

ดังนั้น การที่เหรียญมีมจะฟื้นกลับขึ้นมาได้ตามความคาดหวังของ Grossman อาจเป็นไปได้ยาก ถ้าหากวงการนี้ยังคงมีคนคอยแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวแบบ “น่าเกลียด” เช่นนี้อยู่ต่อไป

ที่มา : Cointelegraph