<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

JPMorgan บุก Ethereum! เปิดตัวกองทุน Tokenized แรก เชื่อมโลกการเงิน 7.7 ล้านล้าน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

(12 ธ.ค. 2025) – วงการคริปโทเคอร์เรนซีและการเงินโลกสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อ Watcher.Guru รายงานข่าวด่วนว่า JPMorgan สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ ประกาศก้าวสำคัญทางประวัติศาสตร์ เตรียมเปิดตัวกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund) ในรูปแบบ “Tokenized” เป็นครั้งแรกบนเครือข่ายบล็อกเชน Ethereum

กองทุนดังกล่าวมีชื่อว่า “MONY” โดยทาง JPMorgan ได้ประเดิมใส่เงินลงทุนเริ่มต้น (Seed) ไปแล้วถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเปิดให้นักลงทุนผู้มีคุณสมบัติ (Qualified Investors) เริ่มลงทุนได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2025 เป็นต้นไป โดยกำหนดเกณฑ์การลงทุนขั้นต่ำไว้ที่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนักลงทุนสามารถเลือกใช้เงินสด หรือ Stablecoin สกุล USDC ในการเข้าซื้อหน่วยลงทุนได้

สำหรับเหตุผลที่ต้องนำกองทุนมาทำ Tokenization นั้น แม้ว่ากองทุน MONY จะมีนโยบายหลักในการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีความเสี่ยงต่ำเหมือนกองทุนตลาดเงินทั่วไป แต่การแปลงสินทรัพย์ให้เป็นโทเคนบนบล็อกเชนจะมอบประโยชน์ที่เหนือกว่าระบบเดิมหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถนำ Stablecoin อย่าง USDC ที่ถือไว้เฉยๆ มาสร้างผลตอบแทนรายวันได้ นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มสภาพคล่องด้วยความสามารถในการไถ่ถอน (Redemption) ได้แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันบนเครือข่ายบล็อกเชนโดยไม่มีวันหยุด รวมถึงการที่โทเคน MONY สามารถนำไปใช้วางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (Collateral) บนกระดานเทรดต่างๆ ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารเงินทุน และลดระยะเวลาในการชำระบัญชี (Settlement) ที่มักจะล่าช้าในระบบการเงินแบบเดิมลงได้อย่างมาก

ความเคลื่อนไหวครั้งยิ่งใหญ่นี้เกิดขึ้นภายใต้กรอบการกำกับดูแลของกฎหมาย “U.S. Genius Act” ฉบับใหม่ โดยผู้บริหารฝ่ายสภาพคล่องของ JPMorgan ระบุว่ามี “ความต้องการมหาศาล” จากลูกค้าสถาบันที่ต้องการเข้าถึงสินทรัพย์ในรูปแบบ Tokenized การเปิดตัว MONY บน Ethereum จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงโลกการเงินดั้งเดิมที่มีมูลค่าตลาดเงินมหาศาลถึง 7.7 ล้านล้านดอลลาร์ เข้ากับระบบนิเวศของ Stablecoin ที่กำลังเติบโต ซึ่งมูลค่าปัจจุบันอยู่ที่ราว 3 แสนล้านดอลลาร์ และเป็นการตอกย้ำบทบาทของ Ethereum ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของโลกการเงินแห่งอนาคต

ที่มา: @WatcherGuru