นักแฮ็คเกอร์สาย white hat (ผู้ที่เจาะระบบเพื่อจุดประสงค์ที่ดี) เป็นจำนวนมากได้รับรางวัลไปแล้วนับ 878,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 28.5 ล้านบาท) ในปีนี้จากการค้นพบ bug ในระบบเหรียญคริปโต อ้างอิงจากเว็บไซต์ TheNextWeb
การล่า bug นั้นถือเป็นการแข่งขันประเภทหนึ่ง ที่บริษัทใหญ่ ๆ จะทำการพัฒนา software ของตัวเองขึ้นมา ก่อนที่จะเชิญให้นักแฮ็คมาทำการเจาะระบบของซอฟต์แวร์ของพวกเขาเพื่อทดสอบดูความแข็งแกร่งของระบบความปลอดภัย ก่อนที่บริษัทเหล่านั้นจะสามารถแก้ไขมันได้ก่อนทำการเปิดตัวซอฟต์แวร์
เว็บ TheNextWeb เผยว่านักแฮ็คเกอร์เหล่านี้ได้รับเงินรางวัลประมาณ 543,500 ดอลลาร์จากแพลทฟอร์ม HackerOne หรือระบบที่เชื่อมต่อบริษัทเหล่านี้เข้ากับนักแฮคเกอร์จาก Block.one ที่เป็นผู้สนับสนุนเหรียญ EOS โดยบริษัทดังกล่าวนั้นได้จ่ายเงินรางวัลไปแล้วถึง 60% ของเงินทั้งหมดในปีนี้
นอกจากนี้ เว็บผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ชื่อดัง Coinbase นั้นเป็นผู้จ่ายเงินรางวัลที่มากเป็นอันดับสองรองลงมา โดยจ่ายไปแล้วถึง 290,381 ดอลลาร์ในปี 2018 นี้ ในขณะที่ Tron นั้นถือเป็นอันดับที่สาม ซึ่งจ่ายไปแล้วถึง 76,200 ดอลลาร์ในปีนี้
ตัวเลขประมาณเกือบ 4% ของรางวัลทั้งหมดนั้นได้ถูกมอบผ่านหมวดความปลอดภัยด้าน Blockchain อ้างอิงจากโฆษกของเว็บ HackerOne ให้สัมภาษณ์กับ TheNextWeb โดยเฉลี่ยตัวเลขของมูลค่ารางวัลในหมวดหมู่ Blockchain ต่อหนึ่งรางวัลนั้นอยู่ที่ 1,490 ดอลลาร์ ในขณะที่ตัวเลขบนเว็บ HackerOne นั้นอยู่ที่ 900 ดอลลาร์
ก่อนหน้านี้มีรายงานไปแล้วว่าแพลทฟอร์ม EOS หรือแพลทฟอร์มด้าน decentralized apps (DApps) ได้สูญเสียเงินไปแล้วกว่า 1 ล้านดอลลาร์จากการถูกแฮคตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ผู้ผลิต hardware wallet รายใหญ่อย่าง Ledger ยังได้ออกมาเผยว่าพวกเขาคนพบช่องโหว่ของระบบกระเป๋าเก็บเหรียญคริปโต แต่ทว่าไม่ร้ายแรงแต่อย่างใด
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น