ผู้สร้างเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่มีควาเป็น centralised สูง แต่มีโวลุ่มการซื้อขายอันดับสองของโลกนาม Ripple ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนในโครงการวิจัย Blockchain แล้ว
โครงการวิจัย
สถาบันเพื่อการวิจัย Fintech (THUIFR) ที่มหาวิทยาลัย Tsinghua ในกรุงปักกิ่งประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า โครงการที่มีการมอบทุนเพื่อการศึกษานั้นจะเน้นเรื่องนโยบายการกำกับดูแลทั่วโลกและการพัฒนา Blockchain นักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการเข้าร่วมในการเยี่ยมชมองค์กรและกิจกรรมต่าง ๆ
นาย Ivy Gao ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือระหว่างประเทศและการพัฒนาที่มหาวิทยาลัยกล่าวว่าโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษานั้นมี “มุมมองที่ครอบคลุม” เกี่ยวกับนโยบายเรื่อง Blockchain ทั่วโลก โดยเขากล่าวเพิ่มว่า เขาเชื่อว่าจะช่วยนักเรียนในเรื่องการวิจัยในอนาคตสาขา “เทคโนโลยี Blockchain”
นาย Eric van Miltenburg รองประธานอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการทั่วโลกของ Ripple กล่าวว่า:
“เป้าหมายของโปรแกรมนี้ก็คือ เพื่อให้นักศึกษามีโอกาสในการวิจัย Blockchain และยังสอดคล้องกับโครงการ University Blockchain Research Initiative ของ Ripple เราตื่นเต้นที่จะสนับสนุน THUIFR และเปิดตัวโครงการนี้”
ย้อนกลับไปเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทาง Ripple ประกาศว่าได้ทุ่มเงินกว่า 50 ล้านดอลลาร์ในการวิจัยด้าน Blockchain ผ่านโครงการของมหาวิทยาลัย และได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย 17 แห่งทั่วโลกในเวลานั้น รวมไปถึงสถาบันในสหรัฐฯ ออสเตรเลีย, บราซิล, แคนาดา, ยุโรป, อินเดียและเกาหลีใต้
โครงการวิจัย Blockchain จากสถาบันการศึกษาทั่วโลกได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากหน่วยงานรัฐบาลเช่นกัน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมากระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ ได้ประกาศว่ามีการระดมทุนจากรัฐบาลกลางมูลค่า 4.8 ล้านดอลลาร์สำหรับมหาวิทยาลัยที่ดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนารวมถึงโครงการที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain
สำหรับเหรียญ XRP ที่ถือเป็นผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ของ Ripple นั้น ในปัจจุบันได้แซงหน้า Ethereum ในแง่ของโกลุ่มการซื้อขายและความนิยมขึ้นมาอยู่อันดับสองของโลก รองจาก Bitcoin แล้ว ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นถึงความจริงจังของพวกเขาในการผลักดันอุตสาหกรรมดังกล่าว แม้จะมีความเป็น centralised สูงก็ตาม
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น