ก่อนที่จะมีประกาศเปิดตัว Samsung Blockchain Wallet แหล่งข่าวท้องถิ่นได้คาดไว้ว่า Samsung Pay เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการนำคริปโตเข้ามาสู่ Galaxy S10
คริปโตอาจถูกใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น
ในวันที่ 29 มกราคมมีรายงานจากทาง Korea Herald ในโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy S10 จะมีวอลเล็ทคริปโตเข้ามาด้วยซึ่งต่อมาก็มีการประกาศตัว Samsung Blockchain Wallet ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์
และยังมีรายงานออกมาว่า Samsung Pay ซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านคนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคริปโตเคอร์เรนซีวอลเล็ทของ Galaxy S10 ซึ่งการที่ Samsung ได้นำวอลเล็ทคริปโตเข้ามาใส่ในระบบอาจจะเป็นการผลักดันให้คริปโตวอลเล็ทมีผู้ใช้งานมากขึ้นในเกาหลี
ต่อมาในวันที่ 8 มีนาคม 3 สัปดาห์หลังจากที่มีการเปิดตัว Samsung Blockchain Wallet สื่อข่าวในเกาหลีได้เผยว่า Samsung Pay พิจารณานำคริปโตเคอร์เรนซีเข้ามาในมือถือ Galaxy S10 รุ่นล่าสุดก็เพราะต้องการขยายฐานลูกค้าของตัวเองไปทั่วโลก
Aaah Yeah pic.twitter.com/zMXX0i9mkw
— Charles Hoskinson (@IOHK_Charles) March 9, 2019
จากบทความของนิตยสาร Shin Donga หัวข้อ “Crypto, Flying Away With Samsung Pay on its Back?” ได้เปิดเผยว่าการที่ Samsung Pay เริ่มพิจารณารับรองคริปโตเคอร์เรนซีก็เพื่อเพิ่มศักยภาพแพลตฟอร์มของตนให้เป็นแพลตฟอร์ม Fintech
รายงานของทาง CCN เผยว่า:
“Samsung Pay ขยายการให้บริการชำระเงินไปยังผู้ใช้งานต่างประเทศและเพิ่มบริการการชำระเงินมากขึ้นดังที่เห็นได้จากการเพิ่มคริปโตเคอร์เรนซีวอลเล็ทเข้ามาใน Galaxy S10 เพื่อเจาะตลาดการเงินโลก”
ถ้าหากวอลเล็ทคริปโตถูกเพิ่มเข้ามายัง Samsung Pay จะยิ่งทำให้แพลตฟอร์มของ Samsung Pay เป็นแพลตฟอร์ม Fintech อย่างสมบูรณ์ซึ่งในตอนนี้ Samsung Blockchain Wallet คาดว่าจะซัพพอร์ต Ethereum อย่างแน่นอนส่วนคริปโตสกุลอื่น ๆ คาดว่าจะถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง ก่อนหน้านี้ก็มีผู้คนสงสัยว่าทาง Samsung Pay จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อะไรออกมาซึ่งในตอนนี้ก็คงไม่ต้องสงสัยกันแล้ว
ตั้งแต่ที่เริ่มมีการประกาศเพิ่มคริปโตเคอร์เรนซีวอลเล็ทเข้ามาใน Galaxy S10 ก็ทำให้ Samsung Pay เป็นแอพพลิเคชั่นการชำระเงินดิจิตอลที่ล้ำสมัยกว่า Apple Pay และ KakaoPay ไปเสียแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 Samsung Pay ได้เข้าซื้อ LoopPay เป็นเงินกว่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งการเข้าซื้อกิจการ LoopPay ดังกล่าวทำให้ผู้ใช้งาน Samsung Pay สามารถประมวลผลการชำระเงินผ่านทางมือถือมอบประสบการณ์ผู้ใช้งานที่เหนือกว่าบรรดาคู่แข่งทั้งหมด
จากข้อมูลของ Donga ในตอนนี้ผู้ใช้งาน Samsung Pay มีเพิ่มมากขึ้นกว่า 58% จากปี 2017 ถีงปี 2018 คือเพิ่มขึ้นประมาณ 6.6 ล้านคน
จากความสำเร็จของ Samsung ในการเข้าซื้อกิจการที่มีศักยภาพและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่รวมถึงการเริ่มนำคริปโตเข้ามาในผลิตภัณฑ์มันจึงไม่น่าแปลกใจเท่าใดนักหาก Samsung Pay จะกลายเป็นผู้นำด้านคริปโตเคอร์เรนซีในเกาหลีใต้
ทั้ง Samsung และคริปโตต่างได้ประโยชน์
ทาง Samsung Pay จะได้ประโยชน์จากการเปิดตัววอลเล็ทคริปโตนี้แน่นอนเพราะมันจะเป็นการดึงดูดฐานลูกค้าที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิตอลอยู่แล้ว เช่นเดียวกับทาง Square Cash ที่รองรับ Bitcoin เข้ามาในผลิตภัณฑ์
หลังจากที่ทาง Square Cash ได้รองรับ Bitcoin ในช่วงปลายปี 2017 มูลค่าตลาดของบริษัทก็เพิ่มขึ้นกว่า 516% จนกลายเป็นบริษัทที่ให้บริการการชำระเงินรายใหญ่
แม้ Bitcoin จะไม่ใช่สิ่งที่ทำให้บริษัท Square Cash เติบโตเร็วมากขนาดนั้นแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นสิ่งสำคัญและมีบทบาทมากในการสร้างฐานลูกค้าให้กับ Square Cash จนทำให้บริษัทมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้
กลับมาทางด้านของ Samsung Pay เมื่อเดือนเมษายนปี 2018 มีรายงานเผยว่าทางบริษัทมีวอลลุ่มการทำธุรกรรมกว่า 18 พันล้านเหรียญสหรัฐและผู้เชี่ยวชาญต่างก็เชื่อว่าการที่นำคริปโตเข้ามาใน Samsung Pay จะยิ่งเป็นการผลักดันให้มีการใช้คริปโตเคอร์เรนซีเป็นเงินกระแสหลักเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องการซื้อขายสินค้า
อย่างไรก็ตามทางผู้เชี่ยวชาญก็ได้ออกมาให้ความเห็นว่าแม้การเปิดตัว Samsung Blockchain Wallet จะช่วยยกระดับการเข้าถึงคริปโตเคอร์เรนซีจากผู้คนมากขึ้นแต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้คริปโตเคอร์เรนซีถูกนำไปใช้เป็นเงินกระแสหลักโดยเฉพาะในร้านค้าปลีก ซุปเปอร์มาร์เกต คาเฟ่หรือร้านอาหารต่าง ๆ
ที่มา ccn.com
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น