เมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมา Bitmain บริษัทผลิตเครื่องขุดคริปโตอันดับหนึ่งได้เปิดตัวเครื่องขุด Antminer 17 เพื่อมาแข่งขันกับเครื่องขุดของบริษัทอื่น ๆ เช่น Canaan Creative ที่ปล่อยรายละเอียดและราคาล่าสุดของเครื่องขุด Avalonminer 10 ซึ่งมีกำลังขุดถึง 31-33 TH/s นอกเหนือจากยักษ์ใหญ่ 2 เจ้านี้แล้ว บริษัทสัญชาติจีนอีก 2 เจ้าก็ได้เปิดตัวเครื่องขุด Gen ใหม่ที่มีกำลังขุดถึง 46-70 TH/s เลยทีเดียว
ด้วยความที่มีเครื่องขุดคริปโตในตลาดเต็มไปหมด เลยอาจทำให้ผู้ใช้งานสับสนได้ว่า ควรเลือกเครื่องขุดไหนดี ซึ่งจะมาเจาะลึกกันในบทความนี้
Avalonminer 10 Series: 31-33 TH/s
ในขณะที่ตลาดคริปโตเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ เครื่องขุดคริปโต Algorithm SHA-256 ก็มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อแย่งกันหากำไรให้ได้มากที่สุด เมื่อปีที่ผ่านมา ได้มีเครื่องขุดคริปโตจำนวนมากที่เปิดตัวโดยผู้ผลิตหลายราย และในปีนี้ ด้วยความที่ตลาดมีสภาพดีกว่าเมื่อปีที่ผ่านมา เลยทำให้มีเครื่องขุดคริปโตเปิดตัวมากขึ้นไปอีก
หนึ่งในเครื่องขุดที่หลาย ๆ คนจับตามองอยู่ก็คือ Avalonminer 10 ที่เปิดตัวมาได้สักพักแล้ว แต่ยังไม่ได้เผยรายละเอียด และเพิ่งจะเปิดเผยออกมาเมื่อไม่นานมานี้ เครื่องขุดดังกล่าวนั้นมีให้เลือก 2 แบบคือ Avalon miner 1041 และ Avalonminer 1041F ซึ่งขุด Algorithm SHA-256 ทั้งคู่ (ขุด Bitcoin)
จุดที่น่าสนใจคือ มันเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เครื่องขุดรุ่น 1041F นั้นมีประสิทธิภาพกว่า 1041 อย่างชัดเจน แต่มันกลับมีราคาเท่ากันที่ 1,057 ดอลลาร์ต่อเครื่อง (ประมาณ 33,641 บาท) โดยรุ่น 1041 นั้นมีกำลังขุดที่ 31 TH/s และใช้พลังงานที่ 56 J/TH และสำหรับรุ่น 1041F น้ัน มันมีกำลังขุดที่ 33.5 TH/s และกินพลังงานที่ 63 J/TH
อย่างไรก็ตาม น้ำหนักของทั้งสองรุ่นนั้นแตกต่างกัน รุ่น 1041 นั้นหนัก 8 kg ในขณะที่รุ่น 1041F หนักเพียง 6 kg เท่านั้น และทั้งคู่สร้างเสียงประมาณ 70dB รวมทั้งมีการันตี 180 วันเท่ากัน
อีกจุดที่ทำให้ Avalonminer เหนือกว่าคู่แข่งคือ พวกเขาได้เคลมว่า เครื่องขุดรุ่น 10 Series นี้ ใช้ชิป 16nm ที่เหนือกว่าชิป 10 หรือ 7 nm ที่คู่แข่งใช้
U8 Model: 46 TH/s
นอกเหนือจากบริษัทยักษ์ใหญ่เช่น Ebang, Bitmain และ Canaan แล้ว ยังมีบริษัทจากจีนเข้าใหญ่อย่าง Strongu ทำเครื่องขุดมาแข่งอีกด้วย โดยพวกเขาได้ประกาศออกมาว่า จะขายเครื่องขุดที่มีกำลังขุดสูง
กว่าเงินที่พวกเขาจ่ายไป Strongu ได้ประกาศว่า จะเปิดขายเครื่องขุดรุ่นแรกในเดือนกรกฎาคมนี้นาม STU-8 หรือ U8 ซึ่งเคลมว่ามีกำลังขุดที่ 46 TH/s
ในรายละเอียด เครื่องขุดดังกล่าวจะใช้พลังงานที่ 2,100W และคาดว่าจะขายที่ราคาประมาณ 1,520-1,883 ดอลลาร์ต่อเครื่อง (ประมาณ 48,377-59,930 บาท)
เครื่องขุด U8 นั้นมีเสียงที่ดังกว่าเครื่องขุดทั่วไปที่ 76 dB และยังไม่มีรายละเอียดในส่วนของน้ำหนัก และชิปเผยออกมาว่าในตอนนี้
Whatsminer M20S: 70 TH/s
อีกหนึ่งน้องใหม่ที่ประกาศว่าจะขายเครื่องขุดคริปโตคือ Microbt ที่กำลังจะเปิดขาย Whatsminer M20S ในเดือนสิงหาคมนี้
อ้างอิงจากรายละเอียดที่ประกาศ เครื่องขุดดังกล่าวมีกำลังขุดถึง 70TH/s, ใช้พลังงานที่ 3,360W และคาดว่าจะมีราคาที่ 2,349 ดอลลาร์ (ประมาณ 74,761 บาท)
เครื่องขุดดังกล่าวจะปล่อยเสียงออกมาที่ระดับ 75 dB และมีการเผยข้อมูลออกมาว่าใช้ชิป 12nm TSMC
สรุป
จากข้อมูลเหล่านี้ จะเห็นได้ว่า ถึงแม้ตลาดคริปโตจะไม่คึกคักเท่ากับปี 2017 แต่ก็มีบริษัทเจ้าใหม่ ๆ กระโดดเข้ามาผลิตเครื่องขุด แย่งส่วนแบ่งตลาดกับเจ้าใหญ่ ๆ โดยเสนอทางเลือกที่แปลกใหม่ให้กับนักขุดเช่น กำลังขุดที่มากกว่า ไม่แน่ว่า การที่บริษัทเหล่านี้ เริ่มกระโดดเข้ามาอาจจะชี้ให้เห็นแล้วว่า ตลาดคริปโตอาจกำลังจะเป็นขาขึ้นก็ได้ ไม่งั้นพวกเขาก็คงไม่กล้าลงทุนผลิตเครื่องขุดเป็นแน่
สำหรับนักขุดคริปโตที่กำลังตัดสินใจอยู่นั้น ก็ให้ศึกษาให้ดีก่อนว่า เครื่องขุดแบบไหนเหมาะกับตัวเองมากที่สุด เพราะเครื่องขุดที่มีกำลังขุดสูงก็ไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป เพราะต้องคำนวณในแง่อื่น ๆ ด้วยเช่น การเคลม, ความเสถียรของเครื่องขุด, การใช้พลังงาน และอื่น ๆ อีกมากมาย
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น