<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เตือนนักลงทุนคริปโต: ระวังการโจรกรรมเหรียญในรูปแบบ SIM Swap ที่กำลังแพร่ระบาดในขณะนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

จากรายงานพบว่าผู้ใช้งานคริปโตชาวสหรัฐ ฯ หลายคนตกเป็นเหยื่อของโจรกรรม SIM Swapping (การเปลี่ยนซิมการ์ดของเหยื่อเพื่อหลีกเลี่ยงการใส่ 2FA) ซึ่งสาเหตุที่ทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อการโจรกรรม SIM Swapping นี้มากขึ้นอาจเป็นเพราะราคา Bitcoin ที่พุ่งถึง 9,000 ดอลลาร์ เป็นจุดสูงสุดครั้งแรกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2019

เคสตัวอย่าง

การโจรกรรม SIM Swapping ไม่ใช่สิ่งใหม่ โจรจะมุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้งานที่เก็บคริปโตทั้งหมดไว้บนเว็บเทรดและคิดว่าการเปิดใช้งาน 2FA นั้นปลอดภัยเพียงพอแล้วที่จะไม่ถูกขโมยคริปโต

อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าโจรจะไม่ถูกจับเสมอไป หนึ่งในโจร SIM Swapper นาย Joel Ortiz นักแฮ็คที่สามารถขโมยเหรียญคริปโตไปได้มูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และถูกตัดสินให้จำคุกหลายปี ซึ่งเคสนี้ก็ทำให้นักแฮ็คทั้งหลายไม่กล้าขโมย Bitcoin เพราะกลัวถูกลงโทษ

การขโมยคริปโตแบบ SIM Swap นั้นคือการที่แฮ็กเกอร์จะทำการสุ่มหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อด้วยวิธีการ Phishing ที่จะถูกส่งไปในรูปแบบลิงค์ไปยังอีเมล์ของเหยื่อ โดยหากเหยื่อคลิกที่ลิงค์ และถูกหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัวอย่าง password เข้าไป ก็จะทำให้ถูกขโมยบัญชีได้

ภายหลังจากนั้นนักแฮ็คก็จะทำการค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของเหยื่อผ่าน email และทำการโทรหาผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์นั้น ๆ เพื่อหลอกให้ทางเครือข่ายส่ง SIM ตัวใหม่ของเหยื่อมาให้นักแฮ็ค จากนั้นนักแฮ็คก็จะสามารถเข้าถึงเว็บกระดานซื้อขายคริปโตของเหยื่อได้ เพราะพวกเขาสามารถรับ SMS ผ่านเบอร์ของเหยื่อได้

คลื่นลูกใหม่ของการโจมตี

สถานการณ์การขโมยเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้ใช้งานหลายคนได้โพสต์ทวิตเตอร์กล่าวว่าตนถูก SIM Jacking เสียแล้ว และคาดว่าโจรน่าจะเป็นคนภายในอาชีพด้วย และยังมีผู้ฟ้องร้องเครือข่าย AT&T ของสหรัฐหลังจากที่เริ่มรับ Bitcoin โดยผู้ฟ้องกล่าวหาว่าเพราะ AT&T ทำให้การโจรกรรมนี้แพร่หลายมากขึ้น

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น