คณะกรรมการประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ได้เสนอมาตรการต่าง ๆ ให้กับรัฐบาลเพื่อทำให้คริปโตเคอเรนซี่กลายเป็นกระแสหลักในประเทศและเน้นย้ำด้วยว่า “มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเราหยุดการซื้อขายคริปโตไปได้ตลอด” ทางคณะกรรมการแนะนำว่าให้รวมคริปโตเข้ากับระบบการเงินดั้งเดิมของประเทศเพื่อทำให้สถาบันทางการเงินสามารถเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตได้โดยตรง รวมถึงสัญญาฟิวเจอร์ , การลิสรายการ bitcoin ในตลาดหุ้นของประเทศและอื่น ๆ
คณะกรรมการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ผลักดันคริปโต
คณะกรรมการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้เสนอมาตรการหลายอย่างภายใต้หัวข้อ ‘การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่’ โดยทางคณะกรรมการได้เรียกร้องให้รัฐบาลรวมคริปโตเข้ากับระบบการเงินของประเทศเพื่อให้สถาบันการเงินนั้นสามารถจัดการและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตได้โดยตรง ซึ่งข้อเสนอได้มีการระบุไว้ในเอกสารดังต่อไปนี้
ในบรรดาข้อเสนอแนะทั้งหมดล้วนเป็น การอนุญาตให้สถาบันการเงินนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่เช่น bitcoin future ซึ่งนี่จะเป็นกลยุทธ์ระยะกลางและระยะยาวสำหรับการปรับโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับคริปโต โดยในวันที่ 6 มกราคมสื่อข่าวธุรกิจของเกาหลีใต้ได้มีการรายงานว่า :
“ทางคณะกรรมาการได้แนะนำรัฐบาลเกาหลีให้ทำการอนุญาตบริษัททางการเงินเพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ฟิวเจอร์โดยขึ้นอยู่กับราคาของ Bitcoin เช่นเดียวกับที่หน่วยงานด้านการเงินของสหรัฐฯ เคยทำ”
นอกเหนือจากเรื่องการเปิดตัว bitcoin future ในเกาหลีใต้แล้ว คณะกรรมการประธานาธิบดียังแนะนำให้ลิส bitcoin ใน Korea Exchange (KRX) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์เพียงรายเดียวในประเทศ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์สหรัฐ (CFTC) ได้อนุมัติผลิตภัณฑ์ฟิวเจอร์หลายแห่ง โดยก่อนหน้านี้ทาง CME Group ได้รับการอนุญาตให้เสนอสัญญาซื้อขาย Bitcoin future และพวกเขายังมีกำหนดที่เปิดตัว bitcoin option สำหรับ BTC Future ในวันที่ 13 มกราคมที่จะถึงนี้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมี Bakkt แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ขับเคลื่อนโดย Intercontinental Exchange Inc. (ICE) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ที่เพิ่งได้เริ่มเสนอสัญญาซื้อขายฟิวเจอร์ส bitcoin ที่สามารถจับต้องได้ในเดือนกันยายน 2019 และในเดือนธันวาคมนี้ Bakkt ก็จะเปิดตัว Option ในสัญญาซื้อขาย bitcoin future เช่นเดียวกัน ในขณะที่ Erisx ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการกำกับดูแลอีกแห่งเพิ่งได้เปิดตัว bitcoin future ที่จับต้องได้ไปเมื่อไม่นานมานี้ ส่วน Ledgerx ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ได้รับกำกับดูแลก็เพิ่งเสนอการซื้อขายสัญญา bitcoin option ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้เช่นกัน
คำแนะนำอื่น ๆ
คณะกรรมการประธานาธิบดีได้แนะนำรัฐบาลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจหรือแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจเปิดให้บริการเว็ปเทรดคริปโต โดยคณะกรรมการได้อ้างถึงแนวคิดริเริ่มของหน่วยงานด้านการเงินในสหรัฐอเมริกาและสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหลีกเลี่ยงผู้ดูแลจากต่างประเทศในกระบวนการจัดการทรัพย์สินคริปโต ซึ่งคณะกรรมการได้เสนอแนะว่า :
“ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดทุนแบบดั้งเดิมเช่น บริษัทหลักทรัพย์และธนาคารควรเริ่มพัฒนาและนำเสนอโซลูชั่นจัดการสินทรัพย์คริปโตในประเทศเพื่อช่วยให้ตลาดมีการควบคุมดูแลสินทรัพย์คริปโตอย่างถูกต้อง โดยไม่ต้องพึ่งพาต่างประเทศ”
รัฐบาลเกาหลีจะต้องค่อย ๆ ช่วยนักลงทุนสถาบันจัดการกับสินทรัพย์คริปโตและส่งเสริมกระบวนการแลกเปลี่ยน OTC ที่มีส่วนช่วยสนับสนุนการเทรดของนักลงทุนในระดับสถาบัน” นอกจากนี้ทางคณะกรรมการยังได้เสนอให้มีการจัดประเภทคริปโตเคอเรนซี่และสกุลเงินเสมือนรวมอยู่ในประเภทเดียวกันอีกด้วย โดยทางสื่อข่าวธุรกิจของเกาหลีรายว่า :
“ในเดือนพฤษภาคม 2019 โลกได้มีการซื้อขายทรัพย์สินดิจิทัลรายวันมากกว่า 80 ล้านล้านวอนหรือประมาณ 69,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้ามาหยุดการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล”
ก่อนที่จะเผยแพร่เอกสารดังกล่าว ทางคณะกรรมการได้ขอให้รัฐบาลสร้างสถานะทางกฎหมายของคริปโตเคอเรนซี่ให้เร็วที่สุดเพื่อเริ่มมาตรการภาษีและมาตรการทางบัญชี เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2019 ที่ผ่านมาคณะกรรมการกล่าวว่านโยบายรัฐบาลในปัจจุบันที่ได้มุ่งเน้นการเก็งกำไรในสินทรัพย์คริปโตนั้นได้บั่นทอนความสามารถในการแข่งขันบนเวทีระดับโลกของประเทศในด้าน blockchain และ คริปโตเคอเรนซี่ ดังนั้นสถานะทางกฎหมายของคริปโตเคอเรนซี่จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขกฎหมายภาษีของประเทศอย่างถูกต้อง
ที่มา : news.bitcoin
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น