อีกหนึ่งข่าวซึ่งเป็นที่ฮือฮาในวงการเทคโนโลยีเป็นอย่างมากในช่วงไม่นานที่ผ่านมานี้ เมื่อทางบริษัทชื่อดังทางด้านโปรแกรมและเทคโนโลยีอย่าง Sony นั้นได้ทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในงาน CES 2020 เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของทางบริษัท โดยรถดังกล่าวเป็นตัวต้นแบบสำหรับสายการผลิตของรถยนต์รุ่น Vision-S
การที่บริษัท Sony นั้นออกมาแสดงถึงการเข้าสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้านั้นได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของทางบริษัทโดยการมองว่ารถยนต์นั้นเป็นมากกว่าเครื่องจักรกล โดยทางผู้บริหารของบริษัทอย่างนาย Kenichiro Yoshida ได้กล่าวไว้ว่ารถยนต์รุ่นต้นแบบนี้ได้รวมรวมทั้งความพยายามของทางบริษัทในการพัฒนาระบบยานยนต์สำหรับอนาคตและเทคโนโลยีต่างๆ ของบริษัทเข้าไว้ด้วยกัน
การดำเนินการดังกล่าวของทางบริษัทนั้นได้เน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้ ซึ่งสังคมจะมีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในรถยนต์ไฟฟ้าแบบไร้คนขับและหุ่นยนต์ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือกิจกรรมในชีวิตประจำวันของผู้คน
ในจุดนี้เองซึ่งการดำเนินธุรกรรมและการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์นั้นเกิดขึ้น โดยเป็นจุดที่เทคโนโลยีอย่าง Blockchain นั้นมีความสำคัญอย่างมากในการเข้ามาช่วยพัฒนาระบบดังกล่าว ซึ่งสกุลเงินคริปโตต่างๆ ที่ได้ถูกสร้างขึ้นมาในฐานะที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนนั้นจะได้พบกับมิติใหม่ของการใช้งานในโลกซึ่งไม่เพียงแค่มนุษย์เท่านั้นที่ทำธุรกรรม แต่หุ่นยนต์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราต่างใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นก็ได้เข้ามาดำเนินธุรกรรมแทนเราอีกด้วย
ดังนั้นแล้วจึงเห็นชัดเจนถึงเหตุผลที่เหล่าผู้ผลิตรถยนต์รูปแบบเดิมๆ นั้นมีทิศทางการตอบสนองต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง Blockchain แตกต่างจากบริษัททางด้านเทคโนโลยีอย่าง Sony หรือแม้แต่บริษัทอื่นๆ อย่าง Apple หรือ Intel เป็นต้น ซึ่งได้มองว่ารถยนต์เหล่านี้นั้นเป็นเครื่องจักรซึ่งเต็มไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย
สำหรับรถยนต์ในรุ่น Vision-S ของทาง Sony นั้นยังคงอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีทางยานยนต์ ซึ่งรวมไปถึงเซนเซอร์ต่างๆ เรดาร์และไรดาร์ รวมทั้งระบบภาพและเสียงรอบด้าน โดยตัวรถยนต์ดังกล่าวจะถูกสร้างขึ้นโดยอาศัยการออกแบบจากภายในบริษัททั้งหมด อีกทั้งข้อมูลเบื้องต้นของทางตัวรถนั้นยังมีศักยภาพสูงรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ ในปัจจุบันคือสามารถที่จะเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ภายในระยะเวลาเพียง 4.8 วินาที และยังมีความเร็วสูงสุดที่ 149 ไมล์ต่อชั่วโมง
แม้ว่ารถยนต์รุ่นดังกล่าวของทาง Sony นั้นยังไม่มีการประกาศถึงช่วงการผลิตก็ตาม แต่เทคโนโลยีซึ่งมาพร้อมกับรถยนต์นี้ต่างชี้ให้เราเห็นถึงอนาคตของการขับขี่ซึ่งระบบจราจรอัตโนมัตินั้นอาจมีการนำการคำนวนตัวเลือกการเดินทางก่อนหลังของรถยนต์แต่ละคันโดยมีระบบการดำเนินธุรกรรมระหว่างรถยนต์เกิดขึ้นก็เป็นได้ ซึ่งในระบบรถยนต์ไร้คนขับนี้ เราอาจไม่จำเป็นที่จำต้องรูดบัตรเครดิตเพื่อที่จะใช้จ่ายในการเดินทางหรือแม้แต่การซื้อแอพลิเคชั่นหรือเนื้อหาความบันเทิงออนไลน์ต่างๆ เลยอีกด้วยซ้ำ
เทรนด์การเปลี่ยนแปลงซึ่งทางบริษัทยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยีอย่าง Sony, Google, Amazon หรือ Apple นั้นต่างก็ดูเหมือนว่าจะกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นจุดเด่นของตลาดทางด้านเทคโนโลยีซึ่งเปิดกว้างให้มีการพัฒนามาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งจุดนี้เองเป็นจุดที่ต่างจากตลาดรถยนต์แบบดังเดิมซึ่งพยายามที่จะปกปิดความลับในการพัฒนายานยนต์ของตัวเอง ซึ่งในที่สุดแล้วจะทำให้พวกเขาเหล่านั้นต้องออกจากตลาดไปในที่สุด
ที่มา : Coindesk
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น