รายงานออกมาเปิดเผยจำนวนการก่ออาชญากรรมโดยใช้คริปโตเป็นเครื่องมือเพิ่มขึ้นกว่า 160% กลายเป็น $4.52 พันล้านในปี 2019 (จาก 1.74 พันล้านดอลลลาร์ในปี 2018) ถือเป็นการเพิ่มขึ้นจำนวนมากเพียงแค่ระยะเวลาปีเดียวเท่านั้น
อ้างอิงจากรายงาน cryptocurrency anti-money laundering สำหรับไตรมาสที่ 4 ของปี 2019 เผยว่ามีการฉ้อโกงที่มีคริปโตเคอร์เรนซีมาเกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นแตะสี่พันล้านดอลลาร์แล้วโดยจำนวนนี้นั้นรวมถึงเว็บเทรดที่โดนแฮ็กด้วย
นาย Dave Jevans ซีอีโอของบริษัท CipherTrace ได้กล่าวกับสำนักข่าว Reuters ว่า:
“บริษัทเราพบการหลอกลวงและฉ้อโกงจำนวนมากเกิดขึ้นจากแชร์ลูกโซ่รวมถึงการโจมตีจากจากคนภายในองค์กรที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศคริปโต”
จากรายงานยังพบอีกว่าการก่ออาชญากรรมด้วยคริปโตที่มีคนภายในเป็นคนกระทำการมีจำนวนเพิ่มขึ้นในขณะที่ความเสียหายจากการถูกแฮ็กนั้นลดลง
แชร์ลูกโซ่ PlusToken และ QuadrigaCX สร้างความเสียหายใหญ่หลวง
นอกจากนี้ในรายงานยังเผยอีกด้วยว่าช่วงไตรมาสแรกของปี 2019 มีแชร์ลูกโซ่เกิดขึ้นมากโดยเฉพาะจาก PlusToken ที่สร้างความเสียหายหลายพันล้านดอลาร์
ส่วน QuadrigaCX ที่ซีอีโอได้เสียชีวิตกระทันหันคนไม่สามารถนำเงินออกมาจาก Cold Wallet ของบริษัทได้ก็สร้างคววามเสียหายร้อยกว่าล้านดอลลาร์ อีก 97% ก็เป็นการเรียกค่าไถ่ให้ส่งมอบ Bitcoin มาให้ตนซึ่งเป็นการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ที่เป็นที่นิยมมากในทุกวันนี้
เมื่อเร็ว ๆ นี้เว็บกระดานเทรดดิ้งแพลตฟอร์ม Altsbit ประกาศปิดตัวหลังจากที่เปิดตัวมาได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น สาเหตุที่เว็บประกาศปิดตัวคือทางบริษัทไม่สามารถรองรับความเสียหายที่เกิดจากการโดนแฮ็คโดย Bitcoin ถูกแฮ็กไป 6,929 จาก 14,782 เหรียญ และ Ether ถูกแฮ็ก 23,210 จาก 32,262 เหรียญ รวมถึงเหรียญ Altcoin อื่นๆ สร้างความเสียหายจนบริษัทไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้
ไม่เพียงเท่านั้นมันยังมีบริการด้านคริปโตแบบผิดกฎหมายหรือดำเนินการโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจำนวนมากในสังคม ซึ่งผู้ใช้งานและนักลงทุนจะต้องระมัดระวัง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น