<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ราคาหุ้นเหมืองขุด Bitcoin ในจีนพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง สวนทางเศรษฐกิจประเทศในขณะนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสตัวใหม่ ‘Corona’ ได้ส่งผลกระทบเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างหนักหน่วง แต่ทว่ามันกลับตรงกันข้ามกับการเคลื่อนไหวของตลาดเศรษฐกิจอื่น ๆ ของจีนที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

หุ้นเหมืองขุด Bitcoin ได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

อ้างอิงรายงานจากสื่อข่าวท้องถิ่น 8BTC ที่เผยว่า หุ้นของเหมืองขุด Bitcoin ยักษ์ใหญ่ ‘Canaan’ ได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

เมื่อวานนี้หุ้นของ CAN ได้มีการพุ่งขึ้นกว่า 80% แตะจุดสูงสุดที่ $ 8 โดยมีการซื้อขายหุ้นมากกว่า 11 ล้านหุ้น บริษัท Canaan เป็นเหมืองขุด bitcoin สัญชาติจีนที่ได้มีการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนและกลายเป็นผู้ผลิตเครื่องขุด bitcoin สัญชาติจีนรายแรกในตลาดสหรัฐ ฯ

นับตั้งแต่นั้นมาผลประกอบการก็ได้ร่วงลดลงมากกว่า 50% สู่ระดับต่ำสุดที่ $ 4.31 นักวิเคราะห์เชื่อว่าการฟื้นตัวขึ้นมาในครั้งนี้น่าจะได้รับผลกระทบมากจากราคาของ bitcoin ที่พุ่งสูงขึ้นแตะระดับ $ 10,000

บรรดาเหล่านักขุด Bitcoin ทั่วโลกต่างกำลังมองหาอุปกรณ์ขุดรุ่นใหม่ ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่าบริษัทมีการแข่งขันเพิ่มขึ้นมาก หลังจากที่ราคาหุ้นได้ร่วงลดลงในช่วงเวลาไม่ถึงสามเดือน

ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่า นักขุดหลายคนเลิกใช้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าของพวกเขาและกำลังมองหาเครื่องขุดรุ่นใหม่ที่ให้กำลังขุดและประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่มากขึ้นกว่าเดิม

นาย Chen Feng ผู้อำนวยการฝ่ายขายของ Canaan กล่าวว่าราคาเครื่องขุดที่เพิ่มขึ้นนั้นมีสาเหตุมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นทำให้ระบบการจัดส่งมีความล่าช้า

ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนได้มีการรายงานแล้วว่า อัตราแรงขุดของ Bitcoin ได้พุ่งทะยานแตะจุดสูงสุดอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมกราคม ซึ่งนั่นอาจส่งผลทำให้มีความต้องการในอุปกรณ์ ขุด Bitcoin เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน

การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ

การระบาดของเชื้อไวรัส Corona ส่งผลทำให้ผลผลิตทางเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลง โดยนาย Daniel Zhang CEO ของ  Alibaba Group ได้ออกมากล่าวเตือนถึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่เรียกว่า ‘หงส์ดำ’ หรือ ‘black swan’ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

ในรายงานระบุว่าความต้องการของสินค้าและบริการได้ลดลง รวมถึงความล่าช้าของพนักงานที่กลับมาทำงานนั้นอาจส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ทางสำนักข่าว Washington Post ยังได้กล่าวเสริมด้วยว่า ‘อาการเมาค้างทางการเงิน’ จากการโรคระบาดอาจกินเวลาอีกหลายเดือน แม้ว่าในที่สุดอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอาจจะชะลอตัวลงแล้วก็ตาม

อีกทั้งยังมีรายงานของ Capital Economics ในกรุงลอนดอนที่พบว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอาจส่งผลทำให้เศรษฐกิจโลกหดตัวในช่วงไตรมาสนี้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤติการเงินขึ้นในปี 2009

ในช่วงเวลานี้ธนาคารกลางหลาย ๆ ประเทศต่างดิ้นรนเพื่อหาทางช่วยเหลือเศรษฐกิจของพวกเขา ด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินที่สร้างขึ้นใหม่ให้ไหลเข้าท่วมตลาด ซึ่งนั้นอาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกแล้วว่าวิกฤตทางการเงินกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

ที่มา : bitcoinist

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น