<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CEO ของ Binance ยื่นขอใบอนุญาตเพื่อเตรียมเปิดตัวเว็ปเทรด Bitcoin ในสิงค์โปร์เร็ว ๆ นี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นาย Changpeng Zhao CEO ของ Binance ยืนยันแล้วว่าบริษัทของเขากำลังยื่นขอใบอนุญาตประกอบการในประเทศสิงคโปร์ โดยกระบวนเหล่านี้จะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือน เนื่องจากประเทศในแถบเอเชียได้มีการออกกฎระเบียบที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล

เมื่อเร็ว ๆ นี้เว็ปเทรด cryptocurrency ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Binance ได้ยื่นขอใบอนุญาตประกอบการในสิงคโปร์ โดยในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อข่าว Bloomberg นาย CZ ได้กล่าวว่าหน่วยงานกำกับดูแลในสิงคโปร์นั้นเปิดกว้างและได้รับการตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว

“เราได้สมัครแล้ว เรายื่นใบสมัครอย่างรวดเร็ว Binance ได้รับการติดต่อจากหน่วยงานอย่างใกล้ชิดและพวกเขาก็ใจกว้างเสมอ”

ในช่วงต้นปีนี้สิงคโปร์ได้เปิดตัวกฎหมายบริการชำระเงิน (Payment Services Act 2019) โดยปกติแล้วธุรกิจและเว็ปเทรด cryptocurrency ที่อยู่ในประเทศทั้งหมดนั้นจะอยู่ภายใต้กฎหมายต่อต้านการฟอกเงิน (AML) และการต่อต้านการก่อการร้าย (CTF)

ดังนั้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่ทั้งหมดจะต้องมีการลงทะเบียนก่อนทุกครั้งถึงมีสิทธิยื่นขอใบอนุญาตในประกอบกิจการในประเทศนี้ได้

นาย Loo Siew Yee ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านการเงินของสิงคโปร์กล่าวว่า PSA ได้มอบกรอบการทำงานที่มีความยืดหยุ่นและเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของอุตสาหกรรมการชำระเงิน นอกจากนี้เขายังกล่าวด้วยว่า มันจะนำความปลอดภัยมาสู่ระบบการเงินมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้จะนำไปสู่ความเชื่อมั่นของนักลงทุน

การแพร่ขยายกิจการของ Binance

ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนได้มีการรายงานไปแล้วว่า วอลุ่มการเทรด Bitcoin Futures ของ Binance ใกล้แซงของ BitMEX แล้ว โดยในช่วงเวลานั้นเว็ปเทรด Binance มีคำสั่ง bid-offer spread อยู่ที่ 50 basis points (BPS) คิดเป็น 10 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับของ BitMEX ที่อยู่ที่ 25 BPS

นอกจากนี้ Binance Future ยังได้เพิ่มสัญญาซื้อขายฟิวเจอร์ตัวอื่น ๆ มากมาย อาทิเช่น  BNB / USDT และ NEO / USDT ซึ่งทาง Binance ได้มอบอัตราเลเวอเรจให้กับผู้ใช้งานสูงถึง 50 เท่าเลยทีเดียว

สำหรับข่าวการอัพเดตอื่น ๆ ของ Binance นั้นก็คือการที่บริษัทได้ประกาศรองรับเงินบาทของประเทศเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา โดยผู้ใช้จะสามารถซื้อ-ขาย Bitcoin ผ่านทางเว็ปเทรด Satang Pro เป็นหลัก ซึ่งสิ่งนี้ได้สร้างความฮือฮาให้กับนักเทรดคริปโตชาวไทยเป็นอย่างมาก 

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น