สื่อของรัสเซียรายงานผลของคดีที่มีการขโมยคริปโตในรัสเซียเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ผลคำตัดสินเป็นไปในทางช่วยเหลือเหยื่อเพียงบางส่วน
ศาลเขต Petrograd ของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กตัดสินคดีเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม โดยคดีดังกล่าวเป็นเรื่องการโจรกรรมเงินรูเบิ้ลและ Bitcoin ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปี 2018 โดยตัวเหยื่อถูกลักพาตัวไปโดยชาย 2 คนที่แอบแฝงว่าเป็นตัวแทนบริการความปลอดภัยของรัฐบาลกลาง
ผู้ก่อการร้ายลักพาตัวเหยื่อแล้วก็ข่มขู่เหยื่อให้โอนเงินมาให้ 5 ล้านรูเบิ้ลพร้อมกับโอน Bitcoin 99.7 BTC ซึ่งในตอนนี้ Bitcoin ที่ถูกขโมยไปมีมูลค่ากว่า $900,000 แล้ว คำตัดสินขั้นสุดได้เผยออกมาแล้ว ก่อนหน้านี้อาชญากรถูกตัดสินว่าไม่ผิดและถูกสั่งจำคุก 7-10 ปี
คำตัดสินดังกล่าวเฉพาะในส่วนของการโจรกรรมเงินรูเบิ้ลรัสเซีย ไม่ใช่ Bitcoin ซึ่งในตอนแรกศาลในตัดสินยกคำร้องเนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลยังไม่ได้รับการคุ้มครองและรับรองว่าถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งทำให้หัวขโมยที่ทำการขโมยคริปโตในรัสเซียไม่ได้ถือว่าเป็นการกระทำผิด
อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลรัสเซียได้เริ่มที่จะกำกับดูแล Bitcoin ซึ่งก็เริ่มมีการร่างกฎหมายผลักดันสกุลเงินดิจิทัลภายในประเทศแล้ว
ตามร่างกฎหมายได้มีการเสนอแนะว่าสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดไม่ได้มีสถานะทางกฎหมายแต่ให้ถือเสมือนเป็นทรัพย์สิน
ร่างกฎหมายดังกล่าวยังได้มีการพูดถึงอุตสาหกรรมการขุดภายในประเทศด้วยโดยเสนอให้นักขุดทั้งหมดมีการลงทะเบียนเป็นบริษัทส่วนตัวเพื่อให้สามารถเก็บภาษีในประเทศได้ ประธานาธิบดีปูตินก็กำลังพิจารณาโมเดลการเก็บภาษีนักขุดด้วย
สำหรับการออกกฎหมายมากำกับกิจกรรมคริปโต ชาวรัสเซียก็ยังไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายมาเอื้ออำนวยต่อการพัฒนาเทคโนโลยีหรือไม่ ด้านนาย Artem Tolkachev ซึ่งเป็นซีอีโอของบริษัทการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลรัสเซียกล่าวว่าเขาไม่คาดหวังอะไรจากร่างกฎหมายแล้ว เพราะเขาเชื่อว่ามันน่าจะไม่ได้มีความพยายามในการทำความเข้าใจสกุลเงินดิจิทัลเลย
การเทรดคริปโตแบบเพียร์ทูเพียร์ในรัสเซียค่อนข้างจะเป็นที่นิยม มีข้อมูลของ Coin Dance ในเดือน พ.ค. เผยว่าปริมาณการเทรดประมาณ 20% บนเว็บไซต์ LocalBitcoins นั้นมาจากรัสเซีย ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสก็ไม่ได้ทำให้มีการเทรดน้อยลง
ที่มา zycrypto