เมื่อไม่นานมานี้ประธานของ Federal Reserve (Fed) นาย Jerome Powell ได้ออกมาประกาศถึงสิ่งที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกต้องช็อค โดยเขากล่าวว่าทาง Fed จะมีการปล่อยให้อัตราเงินเฟ้อวิ่งผ่าน 2% ส่งผลทำให้หลายคนคาดการณ์ว่าสิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์ที่ตรงกันข้ามกับเงินดอลลาร์อย่างเช่นทองคำ, cryptocurrency และหุ้น
แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงนั้นจะส่งผลด้านบวกต่อ bitcoin ในระยะสั้น แต่ดูเหมือนว่านักลงทุนนั้นจะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่นะเมื่อราคาของมันนั้นได้พุ่งไปอยู่ที่แค่ 11,600 ดอลลาร์ ก่อนที่จะร่วงลงมาเหลืออยู่ที่แค่ 11,150 ดอลลาร์
แม้ว่าข่าวเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นนี้จะไม่ได้ส่งผลด้านบวกต่อราคาของ bitcoin เท่าไหร่ครับแต่ว่า CEO ของบริษัทเหรียญคริปโตชื่อดังอย่าง Ripple นั้นเชื่อว่ามันจะช่วยทำให้วงการคริปโตนั้นขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้มากขึ้น และทำให้ตลาดนั้นได้รับการบูสมากขึ้น
Fed ตัดสินใจปล่อยให้อัตราเงินเฟ้อวิ่งนำหน้า
การพิมพ์เงินอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของ Fed ภายใต้คำสั่งของรัฐบาลสหรัฐนั้นดูเหมือนว่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความน่ากลัวมากกว่าที่คิด
โดยเมื่อวานนี้มีรายงานมาว่าในช่วงที่นาย Powell ออกมากล่าวนั้น เขาเผยว่าทาง Fed จะมีการปล่อยให้อัตราเงินเฟ้อวิ่งผ่าน 2% ในอีกไม่กี่ปีที่จะถึง
ซึ่งสิ่งนี้ถูกทำขึ้นเพื่อรองรับเศรษฐกิจโลก เนื่องจากว่าพวกเขาจะสามารถพิมพ์เงินออกมาได้ในรูปแบบของเงินอัดฉีดตรงเข้าไปในระบบ, พันธบัตร และ QE
โดยปกติแล้วผู้ที่เทรดคริปโตนั้นจะรู้ดีว่าความหายากของ bitcoin นั้นถือเป็นสิ่งที่เงินดอลลาร์ไม่มี เนื่องจากว่าสกุลเงินดังกล่าวนั้นสามารถถูกพิมพ์ออกมาได้อย่างไม่มีขีดจำกัดและนั่นส่งผลทำให้มูลค่าของมันลดลงไปเรื่อยๆ
สำหรับนักลงทุนที่กำลังต้องการจะรักษาเงินตราของพวกเขาไว้นั้นจำเป็นที่จะต้องมองหาสิ่งอื่นๆที่มีความหายากมากกว่า และมีอัตราการเพิ่มขึ้นของมูลค่าที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ +2%
CEO ของ Ripple กล่าวว่า Cryptocurrency จะได้รับผลกระทบด้านบวกจากสิ่งนี้
นาย Brad Garlinghouse หรือ CEO ของบริษัท Ripple ได้ออกมาอธิบายว่าเขาเชื่อว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อจะส่งผลดีต่อตลาดคริปโตได้ในท้ายสุด
เขาได้กล่าวว่าสินทรัพย์คริปโตนั้นจะได้รับการบูตโดยนักลงทุนทั่วโลกที่ต้องการจะกระจายความเสี่ยงของ portfolio ของเขาเพื่อป้องกันการสูญเสียมูลค่าของเงินดอลลาร์
“วิกฤตโรคระบาดกำลังฉีกตำราทุกอย่างและโยนมันออกไปนอกหน้าต่าง…การกระทำของเมื่อวานนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาแล้ว มีสัญญาณที่บ่งบอกว่าเงินดอลลาร์จะสูญเสียมูลค่าในอีกระยะสั้น (ส่งผลทำให้ผู้คนต้องออกมากระจายความเสี่ยงทางสินทรัพย์อื่นๆซึ่งนั่นจะถือเป็นเรื่องดีสำหรับคริปโต)”
อย่างไรก็ตามสิ่งที่นักเทรดควรจะทราบไว้ก็คือสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องราวที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะยาวแต่ไม่ใช่ในระยะสั้นแต่อย่างใด