หลังจากที่ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ได้ออกมาประกาศร่วมมือกับทาง KBTG ของธนาคารกสิกรไทยเพื่อพัฒนาแพลทฟอร์มด้านการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ digital asset ไปนั้น ส่งผลทำให้ผู้คนเป็นจำนวนมากออกมาตั้งข้อคำถามกันว่า สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อแพลทฟอร์มผู้ให้บริการเว็ปเทรดหลายอื่น ๆ หรือไม่
โดยนายท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา หรือผู้ก่อตั้งเว็บเทรดคริปโตอันดับต้น ๆ ของไทย Bitkub นั้นได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางสยามบล็อกเชนถึงความเห็นส่วนตัว ของเขาเกี่ยวกับเรื่องการเปิดตัวแพลทฟอร์มด้านการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลของ SET
ผู้ก่อตั้ง Bitkub มองว่าแพลทฟอร์มการลงทุนสินทรัพย์ Digital ของ SET นั้นจะไม่ถือว่าเป็นคู่แข่งของพวกเขาโดยตรง เนื่องจาก SET จะมุ่งเน้นไปที่การให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่ถูกเรียกว่า investment token และ utility token ซะมากกว่า และไม่น่าจะมายุ่งเกี่ยวในเรื่องของ Cryptocurrency
ในระหว่างการสัมภาษณ์กับนายท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ทางสยามบล็อกเชนได้ถามคำถามหลัก ๆ 4 ข้อดังต่อไปนี้
สยามบล็อกเชน : คุณท็อปมีความคิดเห็นเบื้องต้นเกี่ยวกับการเปิดตัวตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของ SET ว่าอย่างไรบ้างครับ ?
นายท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา : ส่วนตัวผมมองว่าเป็นเรื่องดีครับ มันทำให้วงการนี้ดูยิ่งใหญ่ขึ้นและก็ยิ่งมีการยอมรับมากขึ้น มันจะทำให้วงการเติบโตขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยครับถ้า SET เข้ามา โดยหากเราลองดูส่วนแบ่งมูลค่าตลาดทั่วโลกตอนนี้มีมูลค่าอยู่ที่ 500 ล้านล้านดอลลาร์ โดย 500 ล้านล้านดอลลาร์นี้อยู่ในตลาดหุ้น 70 ล้านล้านดอลลาร์ และ 100 ล้านล้านดอลลาร์อยู่ในตลาดตราสารหนี้ แต่ตลาดคริปโตมีมูลค่าตลาดอยู่ที่เพียง 3 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น ดังนั้นหาก SET เข้ามา เราขอแค่ 1% ของ 500 ล้านล้านดอลลาร์ หลั่งเข้ามาในวงการบล็อกเชนไม่ว่าจะเป็น Tokenization ของอสังหาหรือหุ้นปตท มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมอาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่ง SET จะช่วยให้เราโตขึ้นได้อีกหลายสิบเท่าตัว ผมมองว่าเป็นเรื่องดี
สยามบล็อกเชน : คุณท็อปมีคิดว่า SET จะมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ Bitkub ไหมครับ ?
นายท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา : ไม่เลยนะครับ เรามองว่าอย่างแรกเลย SET ไม่เทรด Cryptocurrency พวก Bitcoin พวกอะไรอยู่แล้ว พวกมีวิสัยทัศน์คนละอันกับเรา โดยวิสัยทัศน์ของเค้าก็คือการ Tokenization พวกหุ้นปตท. หรืออสังหาไรงี้ครับ แต่ในเรื่องของสกุลเงินดิจิทัลนี้ยังไม่มี ดังนั้นจึงไม่ถือว่าเป็นคู่แข่งกับทาง Bitkub อย่างแน่นอน เพราะตอนนี้เราครองส่วนแบ่งตลาดคริปโตในไทยถึง 95% แต่กลับกันในอนาคตหาก SET มาทำพวก Tokenization ผมมองว่า SET จะเป็นคนช่วยให้วงการนี้ยิ่งโตขึ้นและตลาดมันใหญ่มากพอ เพราะขนาดแค่ตลาดหุ้นอย่างเดียวยังหลายเท่าตัวของ GDP ไทยเลย นี่คือแค่ product เดียวนะครับ และยิ่งในอนาคตหาก SET ทำการ Tokenization ทุกอย่างตั้งแต่หุ้นยันที่ดิน ยันทองคำ ยันเพชร , พลอย ยันคอนโดตลาดมันจะใหญ่แค่ไหนละครับ ผู้เล่นรายเดียวมันไม่พออยู่แล้ว มันต้องช่วยกันด้วยซ้ำไป ช่วยกันให้วงการนี้โตเร็วขึ้น ผมจึงมองว่ามันไม่ใช่เรื่องของการเป็นคู่แข่งกันครับ
สยามบล็อกเชน : สิ่งที่ SET มีและ Bitkub ไม่มี คืออะไรครับ ?
นายท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา : ก็คงเป็นความรู้ของอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม เช่น TSD ประการณ์ความรู้ในวงการตลาดหุ้นแบบดั้งเดิม และก็เรื่องของความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันเป็นสิ่งที่ SET มี เพราะเขาก็เปิดมา 48 ปี เกือบ 50 ปี ซึ่งมันเป็นที่สั่งสมมาไม่ใช่ได้มาเพียงแค่ชั่วข้ามคืน นี่คือสิ่งที่บริษัทแบบดั้งเดิมจะได้เปรียบ แต่ผมมองว่ามันไม่ใช่การเป็นคู่แข่งกัน ซึ่งเราก็มีหลาย ๆ อย่างที่ SET ไม่มีเหมือนกันเช่นความรู้และประสบการณ์ในวงการรูปแบบใหม่ มันคือไฟฟ้าและเทียนไข มันเป็นความรู้คนละอย่างกัน เพราะฉะนั้นเราจึงมองในอีกมุมมองหนึ่งมากกว่า อยู่ในวงการเดียวกันแต่มองกันคนละมุมมอง แต่ก็ดีครับ ยิ่งมีผู้เล่นมากขึ้น ผู้ใช้งานก็จะได้ผลประโยชน์ วงการก็จะโตเร็วขึ้น
สยามบล็อกเชน : การมาของ SET จะทําให้วงการคริปโตในไทยเปลี่ยนไปอย่างไรครับ
นายท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา : ผมมองว่าจะยิ่งไปเร็วกว่าที่อื่นเลยครับ คือไม่น่าจะมีวงการไหนในไทยที่ไปเร็วเท่านี้อีกแล้ว ถ้ามีผู้เล่นรายใหญ่เข้ามา ลองคิดดูสิครับถ้า NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กมาทำตรงนี้เองและสนับสนุนเต็มที่ มันไปเร็วกว่าวงการอื่นอยู่แล้วครับ มันจะทำให้สถาบันการลงทุนเข้ามาในเมืองไทย ทำให้คนเก่ง ๆ ที่อยู่ในวงการคริปโตเคอเรนซี่หรือบล็อกเชนเข้ามาในเมืองไทยมากขึ้น เพราะกฎหมายมันถูกต้องแล้ว และเท่านั้นไม่พอผู้เล่นรายใหญ่ยังเข้ามาช่วยสร้างวงการนี้อีก ยิ่งทำให้โอกาสมันไหลเข้ามาในไทยอีกมหาศาลเลย และไทยอาจแซงหน้าประเทศอื่นได้
จากการสัมภาษณ์สรุปได้ว่านายท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภาเชื่อว่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของ SET นั้นจะไม่มาเป็นคู่แข่งกับทาง Bitkub อย่างแน่นอน แต่จะมีส่วนช่วยให้เติบโตไปพร้อมกันซะมากกว่า เนื่องจาก SET และ Bitkub นั้นมีมุมมองและเป้าหมายที่แตกต่างกับพวกเขา ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าในปีหน้านี้ แพลตฟอร์มลงทุนสินทรัพย์ดิจทัลของ SET จะส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตของเราอย่างไร