จากการประกาศอย่างเป็นทางการของธนาคารออนไลน์ชื่อดังอย่าง PayPal ในการกระโดดเข้ามายังวงการ Cryptocurrency เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น ได้เกิดเป็นกระแสอันโด่งดังที่ทำให้ตลาดคริปโตกลับมาคึกคักอีกครั้งเนื่องจากการคาดการณ์ในเม็ดเงินมหาศาลที่จะเข้ามายังวงการนี้
หลังจากการประกาศอย่างเป็นทางการได้ทำให้มูลค่าของ Bitcoin พุ่งจาก $12,000 ไปถึง $13,000 ในชั่วข้ามคืน และยังไม่มีท่าทีของราคาที่จะกลับลงมาในจุดเดิม ซึ่งการเข้ามาของ PayPal นี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เหล่าสถาบันยักษ์ใหญ่หันมาสนใจวงการ Cryptocurrency มากขึ้นและคงปฏิเสธไม่ได้ว่าในอนาคต เม็ดเงินมหาศาลในตลาดที่เต็มไปด้วยนักลงทุนสถาบันชั้นนำของโลกและทุนรายย่อยแห่งนี้ จะเปลี่ยนโฉมตลาด Cryptocurrency อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอย่างแน่นอน
ผู้ใช้งาน PayPal กว่า 346 ล้านบัญชีจะมีส่วนช่วยให้ตลาด Cryptocurrency ก้าวไปอีกขั้น
แนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในการเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลของผู้ใช้งานกว่า 346 ล้านบัญชีของ PayPal นั้น มีความเป็นไปได้สูงมากเนื่องจากการประกาศทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม จะทำให้ผู้คนเกิดความสนใจในตัวสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของพวกเขาได้ เช่น การจ่าย โอน รับ ถอน ผ่านทางแพลตฟอร์มและร้านค้าทั่วโลกด้วยสกุลเงินกว่า 25 ชนิด
รวมไปถึงการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเก็บไว้เพื่อเก็งกำไรและเป็นหลักประกันความเสี่ยงทางทรัพย์สิน ด้วยการถือครองสกุลเงินดิจิทัลผ่าน Digital Wallet ของ PayPal นำโดย 4 สกุลเงินดิจิทัลหลักอย่าง Bitcoin, Ethereum, Litecoin และ Bitcoin Cash
ซึ่งหากมองลงไปถึงปริมาณการใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มในไตรมาส 4 เมื่อปี 2019 จะเห็นว่าสูงถึง 199,404 ล้านดอลลาร์นับเป็นการทำธุรกรรมรวมกว่า 3,500 ล้านครั้ง ซึ่งหากเปลี่ยนเป็น 10% ของจำนวนเหล่านี้เข้ามาในตลาดคริปโตล่ะก็อาจจะทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ที่กระเพื่อมให้ตลาดคริปโตเกิดการเปลี่ยนแปลงก็เป็นได้
นับเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้คนทั่วโลกเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งจะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับพวกเขาในการถือครอง Bitcoin ที่เปรียบเสมือนทองคำในการรับประกันความเสี่ยงทางทรัพย์สิน อีกทั้งยังสามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ถือเป็นการผลักดันตลาดให้เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีเม็ดเงินสำคัญจากผู้ใช้งานของ PayPal และเม็ดเงินอีกจำนวนมหาศาลที่คาดว่าจะมีผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นหลังจากการประกาศใช้เต็มตัวในต้นปีหน้า
การแข่งขันในอนาคตที่อาจทำให้ผู้คนเกิดความต้องการ Bitcoin มากขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อตลาดคริปโต
หากกระแสการใช้งานในสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มมากขึ้นในอนาคต อันเนื่องมาจากการเข้าถึงในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างงายดายนั้น อาจทำให้เกิดความต้องการในการถือครองสกุลเงินเหล่านี้เป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นสกุลเงินดิจิทัลเบอร์หนึ่งอย่าง Bitcoin
ด้วยการถือครองส่วนแบ่งในตลาด (Market Cap) ของ Bitcoin กว่า 65% ณ ขณะนี้ หรือราว ๆ 250,000 ล้านดอลลาร์ ใหญ่เป็นอันดับ 1 ในตลาดคริปโต ทำให้ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต จะส่งผลดีต่อตลาดคริปโตโดยรวมและอาจไปถึง altcoin ตัวอื่น ๆ ด้วย
ซึ่งความต้องการในตัว Bitcoin ที่มีอย่างมาก แต่การมีอยู่อย่างจำกัดของมันที่ 21 ล้านเหรียญ จะดันราคาให้สูงขึ้นตามหลักอุปสงค์อุปทาน โดยนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์มูลค่าของ Bitcoin จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทะลุ 1,000,000 ล้านดอลลาร์ต่อ 1 Bitcoin หรือประมาณ 31,000,000 ล้านบาท อีกทั้งปัจจัยการ Halving ในทุก ๆ 4 ปีที่จะลดรางวัลในการขุดเหรียญ Bitcoin ครึ่งหนึ่งในทุกครั้งที่ขุดได้ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลให้มูลค่าของมันเพิ่มขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่ และจะกลายเป็นแรร์ไอเทมที่ใครก็อยากจะครอบครองในอนาคต
อย่างไรก็ตามมีปัจจัยด้านพื้นฐานและเทคนิคมากมายที่ส่งผลต่อมูลค่าของตัว Bitcoin หรือตลาด Cryptocurrency เองในอนาคต อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้นนักลงทุนควรจับตามองทุกการเคลื่อนไหวในตลาดคริปโตอย่างดีที่สุด