สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) คาดว่าจะยื่นฟ้องดำเนินคดีกับบริษัท Ripple ในข้อหาขายหลักทรัพย์ (XRP) โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต อ้างอิงตามรายงานที่เผยแพร่โดยหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ในวันนี้
ในขณะที่หน่วยเฝ้าระวังหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า XRP นั้นเป็นหลักทรัพย์หรือไม่ การประกาศครั้งนี้จึงดำเนินไปโดยที่ไม่มีใครอื่นนอกจากนาย Brad Garlinghouse ซีอีโอของ Ripple
จากโพสต์ทวีตเมื่อเร็ว ๆ นี้ นาย Brad Garlinghouse อธิบายว่านี่คือคำแถลงการณ์ครั้งสุดท้ายของนาย Jay Clayton ประธาน ก.ล.ต. ที่มีกำลังจะออกจากตำแหน่งในช่วงสิ้นปี :
“วันนี้ SEC ได้โหวตให้โจมตีคริปโต” เขากล่าวต่อว่า “นาย Jay Clayton ประธานกรรมกำลังคัดเลือกผู้ชนะและพยายามจำกัดนวัตกรรมของสหรัฐฯในอุตสาหกรรมคริปโตไว้อยู่ที่เพียง Bitcoin และ Ethereum เท่านั้น”
ราคา XRP ร่วงลงทันทีกว่า 10 เปอร์เซ็น
ดูเหมือนว่าราคา XRP จะตอบสนองต่อข่าวดังกล่าวทันทีและดิ่งร่วงลดลงกว่า 10% แตะจุดต่ำสุดในวันนี้ที่ระดับ 0.47 ดอลลาร์
ย้อนกลับไปในเดือนมิถุนายน 2019 ราคาเหรียญ Kin ซึ่งเป็นโทเค็นของแอปส่งข้อความโซเชียล Kik นั้นดูย่ำแย่กว่ามาก โดยราคาของ Kin นั้นร่วงลดลงกว่า 30 เปอร์เซ็น หลังจากพยายามต่อสู้กับหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งในที่สุดบริษัทก็ถูกตัดสินให้แพ้คดีในเดือนตุลาคมและต้องจ่ายเงินค่าปรับเป็นมูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์
ในระหว่างการสนทนาบนพอดคาสต์ล่าสุด นาย Garlinghouse อ้างว่าพลเมืองสหรัฐฯ จำเป็นต้องมีใบอนุญาตตัวแทนจำหน่ายโบรคเกอร์ในซื้อขายเหรียญ XRP หาก SEC ประกาศว่ามันคือ “หลักทรัพย์”
อย่างไรก็ตามเขายังกล่าวอีกด้วยว่ากว่า 90 เปอร์เซ็นของลูกค้า RippleNet นั้นไม่ได้มาจากสหรัฐอเมริกา
นาย Yoshitaka Kitao ประธาน SBI Holdings กล่าวว่า บริษัทพร้อมที่จะทำงานร่วมกับ Ripple สำหรับการขยายธุรกิจในแถบเอเชียโดยเขาได้ตั้งข้อสังเกตว่ามันมีความชัดเจนด้านกฎระเบียบในญี่ปุ่นอยู่แล้ว :
“FSA ของญี่ปุ่นได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า XRP ไม่ใช่หลักทรัพย์ ดังนั้นผมจึงมองโลกในแง่ดีว่า Ripple จะมีชัยในการพิจารณาคดีขั้นสุดท้ายในสหรัฐอเมริกา โดย SBI Holdings จะยังคงเป็นพาร์ทเนอร์กับ Ripple ต่อไปและหวังว่าพวกเราจะขยายธุรกิจนี้ไปด้วยกันในเอเชีย”