ในวันที่ 22 ธันวาคม สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ยื่นเอกสารฟ้องร้องต่อศาลว่า บริษัท Ripple, นาย Larson และนาย Garlinghouse ได้กระทำการผิดกฎหมาย โดยเอกสารมีความยาวถึง 71 หน้า หรือกว่า 400 ย่อหน้า
โดยในเอกสารระบุว่า จำเลยทั้ง 3 นั้นได้กระทำการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนหลักทรัพย์ไว้ ซึ่งหลักทรัพย์ที่กล่าวถึงนั่นคือเหรียญ XRP
เหตุใดเหรียญ XRP จึงเป็นหลักทรัพย์?
ในปี 2012 ทางบริษัท Ripple ได้ยื่นเอกสารเพื่อขอคำปรึกษาทางด้านการเงินกับหน่วยงานของรัฐบาล ซึ่งได้มีส่วนหนึ่งของเอกสารระบุว่า XRP นั้นจะมีลักษณะใกล้เคียงกับสัญญาการลงทุน (Investment Contract) ซึ่งตามข้อกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางได้ระบุไว้ว่า สัญญาการลงทุนนั้นเป็นหมวดหมู่หนึ่งของหลักทรัพย์อีกด้วย
สอดคล้องกับที่ทาง Ripple ได้มีการโฆษณาให้ผู้ลงทุนเข้าใจว่าการทำงานของทางบริษัท Ripple จะส่งผลให้ XRP ประสบความสำเร็จได้ อีกทั้งยังมีการโฆษณาเพิ่มอีกว่ารายได้จากผู้ลงทุนจะถูกนำไปลงทุนต่อภายในบริษัท Ripple และยังได้ทำให้ผู้ลงทุนเชื่อว่าผลกำไรจาก XRP จะมาจากการลงทุนที่เกิดจากการนำไปลงทุนต่อของจำเลยอีกด้วย ซึ่งการโฆษณาเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่ามีลักษณะตรงกับสัญญาการลงุทนอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ในปี 2015 Ripple ได้ยื่นเรื่องขอเข้าพบกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ หลังไม่สามารถจดทะเบียน XRP เป็นบริการสกุลเงินดิจิทัลได้ อีกทั้ง Ripple ยังมีความเห็นฟ้องกับหน่วยงานของรัฐบาลด้วยว่า XRP มีความเป็นหลักทรัพย์มากกว่าสกุลเงิน
ก.ล.ต. จึงได้ข้อสรุปว่า XRP นั้นไม่ใช่สกุลเงิน แต่เป็นหลักทรัพย์ ตามข้อกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง
ก.ล.ต. ยังเล็งเห็นด้วยว่า Ripple สามารถควบคุมสภาพตลาดของ XRP ได้
ก.ล.ต. ได้สืบทราบมาว่า จากการทำงานที่ผ่านมาของบริษัท Ripple นั้นเลือกที่จะแสดงข้อมูลให้ผู้ลงทุนไม่ครบถ้วน และไม่ใช่เพียงแค่บริษัท Ripple ที่มีข้อมูลมากกว่าผู้อื่น แต่นาย Larson และนาย Garlinghouse ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลของบริษัท Ripple ได้อีกด้วย
จากที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้เกิดปัญหาข้อมูลที่นักลงทุนได้รับโดยรวมไม่เท่ากัน (Asymmetrical information) และส่งผลทำให้จำเลยทั้ง 3 ที่มีข้อมูลมากกว่าคนอื่น มีความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงหรือควบคุมสภาพตลาดได้
อีกทั้งยังมีหลักฐานอีเมลที่ส่งระหว่างทางบริษัท Ripple กับคนทำตลาด (Market Maker) ในช่วงปี 2015-2016 ที่แสดงให้เห็นการชักจูงราคาตลาด ส่งผลให้ราคาผันผวนรุนแรงในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคมปี 2016
การขาย XRP ที่ไม่ชอบมาพากลของจำเลยทั้ง 3
ซึ่งจากข้อสังเกตดังกล่าว นั้นได้มีหลักฐานที่น่ากังวลใจยืนยันอีกเรื่องหนึ่งด้วย
จากตารางแสดงใหเห็นว่าในช่วงระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมานั้น บริษัท Ripple มีรายได้จากการขาย สกุลเงิน XRP เป็นมูลค่ากว่า 1.39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4 พันล้านเหรียญ XRP ตลอดระยะเวลา 8 ปี
นอกจากนี้นาย Larsen ยังได้ขายเหรียญ XRP เป็นมูลค่ากว่า 450 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ เช่นเดียวกับนาย Garlinghouse ที่ได้ขายเหรียญไปมูลค่ากว่า 150 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
อีกทั้งยังได้มีความพยายามที่จะให้แพลตฟอร์มการซื้อขายบางเจ้า list เหรียญ XRP ซึ่งทางก.ล.ต.ได้พบหลักฐานการพยายามใช้เงินสดผ่านผู้ให้บริการเพื่อให้สามารถ list เหรียญบนบางแพลตฟอร์มอีกด้วย
จากทั้งหมดนี้ทางก.ล.ต.จึงได้ข้อสรุปว่าจำเลยทั้ง 3 ตั้งใจที่จะทำให้เกิดการซื้อขายหลักทรัพย์โดยที่ทราบว่าเหรียญ XRP นั้นเป็นหลักทรัพย์ที่ยังไม่ได้มีการจดทะเบียน ซึ่งขัดกับข้อกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง ส่งผลให้เกิดการฟ้องร้องขึ้นในวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา
จากเหตุการณ์นี้ทำให้ราคาของ XRP นั้นร่วงลงอย่างรุนแรง และปัจจุบันกำลังจะไปแตะที่ระดับ $0.25
ซึ่งทาง Siam Blockchain คาดการณ์ว่าจะเป็นคดีความที่ค่อนข้างสาหัสสำหรับทางบริษัท Ripple เพราะทางก.ล.ต. สหรัฐฯ มีหลักฐานค่อนข้างแน่นหนาสำหรับการนำมาใช้ในการฟ้องร้องครั้งนี้
ที่มา: ก.ล.ต. สหรัฐฯ