เหรียญ XRP ได้เผชิญกับแรงขายที่ถาโถมมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ได้ทำการฟ้องร้อง Ripple ซึ่งมี 3 ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาของ XRP ร่วงลง 63% ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาดังนี้: 1) การฟ้องร้องโดย ก.ล.ต. สหรัฐฯ 2) โอกาสการโดนถอดออกจากเว็บเทรด 3) อารมณ์ผู้ใช้บนทาง social media ที่ยังคงย่ำแย่ลงต่อไป
กรณีการฟ้องร้อง Ripple ครั้งนี้รุนแรงกว่ากรณีการฟ้อง EOS และ Kik
นาย Adam Cochran ผู้เชี่ยวชาญจาก Cinneamhain Ventures ได้เปรียบเทียบกรณีที่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ได้ฟ้องร้อง Ripple กับกรณีที่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ได้ฟ้องร้องทาง EOS และ Kik ว่าการฟ้องร้องในกรณีแรกนั้นถือว่ารุนแรงกว่า เพราะว่า EOS และ Kik นั้นถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎหลักทรัพย์เพียงแค่ในจุด PoS และได้หาข้อตกลงด้วยกันเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าเหรียญ XRP ถูกกล่าวหาว่าเป็นสิ่งที่ละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ และยังถูกกล่าวอยู่จนถึง ณ ปัจจุบันนี้
นาย Adam ยังได้กล่าวว่าทาง Ripple ไม่สามารถอ้างว่าทางบริษัทไม่รู้ถึงข้อกฎหมาย เพราะว่ามีพวกเขาเอกสารต่างๆ เช่น วิธีการจำหน่ายเป็นหลักฐาน นอกจากนี้แล้ว นาย Adam กล่าวว่าการที่ ก.ล.ต. ได้ประกาศว่าทางผู้บริหารของบริษัท Ripple จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบนั้นเป็นวิธีการที่ ก.ล.ต. มักจะรับมือกับการกระทำฉ้อโกงซะมากกว่าการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหลักทรัพย์โดยทั่วไป
เว็บเทรดทั่วโลกกำลังแห่ Delist เหรียญ XRP
ในประเด็นของการ delisting นั้น นาย Adam ยังอ้างว่าตนเองได้พบข้อมูลจากแหล่งบางแห่งว่าทางเว็บเทรดชื่อดังอย่าง Coinbase ก็กำลังที่จะพิจารณาเรื่องการ delist เหรียญ XRP ออกโดยล่วงหน้า เพราะว่าในทันทีที่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ทำการวินิจฉัยว่า XRP เป็นหลักทรัพย์ เว็บเทรดที่ยังคง list XRP ณ เวลานั้นจะต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบากในหลายประการอย่างแน่นอน
กระแสลบบน social media ยังเพิ่มขึ้นต่อไป
นอกจากความกังวลที่ทางเว็บเทรดยต่างๆ มีต่อกรณีนี้แล้ว ปัจจัยอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคา XRP นั้นดิ่งลงก็คือการที่ผู้ใช้หรือสาวก blockchain ต่างๆ บน social media ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ XRP เพียงแค่ในประเด็นเรื่องการฟ้องร้องโดย ก.ล.ต. ซึ่งแทบทุกการโพสต์เกี่ยวกับ XRP ในช่วงนี้จะมีคำว่า “sec” (ชื่อย่อของ ก.ล.ต. สหรัฐฯ) อยู่ด้วย
กลุ่มวิเคราะห์ข้อมูลตลาด cryptocurrency ทั้งสองแห่งนั่นก็คือ Santiment และ The Tie ต่างสรุปว่าอารมณ์ที่ตลาดมีต่อ XRP ถือว่าอยู่ในจุดที่ต่ำเป็นอย่างยิ่ง
ที่มา cointelegraph