ข้อมูลจาก Whale Alert แสดงให้เห็นว่า ได้มีการโอน XRP ขนาดมหึมาจำนวน 230 ล้านเหรียญในช่วง 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกันธนาคารรายใหญ่ของประเทศไทยได้มีการร่วมมือกับ RippleNet โดยลงทุนกว่า 50 ล้านดอลลาห์ใน startups บล็อกเชน แพลตฟอร์ม DeFi และสินทรัพย์คริปโต
เจ้ามือโอนเหรียญ XRP จำนวน 230 ล้านเหรียญ
จากข้อมูลของ Whale Alert เมื่อไม่นานมานี้ ปลาวาฬนิรนามได้มีการเชื่อมต่อ XRP ที่ต่ำกว่า 230 ล้านเหรียญในสองธุรกรรม รวมทั้งสิ้น $103,144,654
ข้อมูลจากเว็บไซต์การวิเคราะห์ Bithomp ซึ่งติดตามธุรกรรม XRP ระบุว่า ธุรกรรมทั้งสองดำเนินการโดย Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ crypto ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
แพลตฟอร์มนี้ถูกฟ้องโดยหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐอเมริกา SEC ซึ่งกล่าวหาว่า Coinbase เรียกเก็บค่าธรรมเนียมคอมมิชชันจากการขาย XRP หลังถูกสำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวหาว่าเป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน โดยทาง Ripple มีคดีความในลักษณะเดียวกันจากหน่วยงานกำกับดูแลตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2020
จากรายงานของ XRP ในไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2020 ลูกค้า Coinbase ยังคงได้รับอนุญาตให้ใช้กระเป๋าเงิน XRP เพื่อโอนและเก็บเหรียญของตนได้ เป็นเพียงการซื้อขาย XRP ได้ถูกระงับไป
SCB และ Azimo ริเริ่มโครงการใหม่บนบล็อกเชนและบริการโอนเงิน
ก่อนหน้านี้สยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่า ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอย่างอย่าง SCB10X ได้มีการก่อตั้งกองมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์เพื่อลงทุนในสตาร์ทอัพด้าน Blockchain และ DeFi
การระดมทุนดังกล่าวจะเป็นการลงทุนเพื่อแวดวงการเงินแบบกระจายอำนาจ บล็อกเชน และสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก
คุณมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer แห่งธนาคารไทยพาณิชย์เชื่อว่า จะมีความคล้ายคลึงกันที่แข็งแกร่ง ระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมและรูปแบบใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน
Azimo ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของปากีสถานจะเปิดตัวบริการการโอนเงิน
รายงานของ U Today ระบุว่า RippleNet ได้ร่วมมือกับ Azimo ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในปากีสถาน (HBL) ได้ประกาศเปิดตัวโซลูชันการโอนเงินดิจิทัลรูปแบบใหม่
ผลิตภัณฑ์ที่ออกใหม่นี้จะช่วยให้คนปากีสถานที่อาศัยและทำงานในต่างประเทศสามารถส่งเงินจากยุโรป สหราชอาณาจักร และที่อื่น ๆกลับมาที่ปากีสถาน ได้อย่างราบรื่นและราคาถูก
ผู้ใช้งนาสามารถส่งเงินผ่าน Azimo ไปยังบัญชีธนาคารใดก็ได้ที่อยู่ในธนาคารของปากีสถาน หรือโอนเงินไปยังสาขาของ HBL เพื่อรับเงิน
ปัจจุบันธนาคาร (HBL) มีลูกค้ามากกว่า 30 ล้านราย และแอพมือถือมีฐานผู้ใช้งานมากกว่า 1.8 ล้านคน