บริษัทขุด Bitcoin (BTC) กำลังออกมาให้การสนับสนุนโครงการ DeFi ที่มีชื่อว่า Standard Hashrate และรวมถึง TAU Protocol ที่เพิ่งเปิดตัว ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม synthetic asset (สินทรัพย์ที่จำลองสินทรัพย์อื่น ๆ) โดยใช้อนุพันธ์ hahs rate มาค้ำไว้อีกทีหนึ่ง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาโครงการ TAU ประกาศว่า มีเป้าหมายที่จะสร้าง Bitcoin เวอร์ชันอัลกอริทึม และสินทรัพย์ proof-of-work ผ่านกลไก rebase ที่ได้รับการแก้ไขแล้ว โดยแนวคิดพื้นฐานคล้ายกับเหรียญ rebase ทั่วไปอย่างเช่น Bitcoin สังเคราะห์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย Badger อย่างไรก็ตามโปรโตคอล TAU จะช่วยเพิ่มมูลค่าของ synthetic asset ผ่าน Bitcoin ที่ได้จาก hash rate การขุด
กลไก TAU อาศัย Bitcoin Standard Hashrate Token (BTCST) ซึ่งเป็นโทเค็นพลังการขุดของ Standard Hashrate ที่ออกแบบมาเพื่อใช้แทนพลังในการขุดต่อ 0.1 terahashes โดยปกติ BTCST สามารถถูกนำไป stake ได้เพื่อรับจำนวน Bitcoin ที่เทียบเท่ากับ hash rate ของการขุดเป็นสิ่งตอบแทน โดยโปรโตคอล TAU ใช้โทเค็น BTCST ซึ่งให้รางวัลแก่ผู้ที่ stake ด้วย Bitcoin synthetic และรับ reward เป็น Bitcoin ที่เกี่ยวข้องกับโทเค็น hash rate
จากนั้น Bitcoin จาก BTCST จะถูกนำไปเป็นตัวค้ำประกันใน collateral pool จะที่จะถูกเปิดใช้งานเมื่อใดก็ตามที่ synthetic asset ถูกซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าเหรียญที่ถูกนำมาค้ำไว้ ซึ่งกลไกนี้จะช่วยลดจำนวนโทเค็น synthetic ในทุกกระเป๋าเงิน ในขณะเดียวกันก็ใช้ pool BTC เพื่อซื้อโทเค็นในตลาดและเผาเหรียญเหล่านั้นด้วย
เมื่อโทเค็นอัลกอริทึม TAU มีมูลค่าการซื้อขายที่มากกว่าสินทรัพย์ที่ค้ำไว้ตามเป้าหมาย โปรโตคอลจะปรับพารามิเตอร์ความยากของ synthetic เพื่อสร้างโทเค็นเพิ่มเติมจากการ staking BTCST ซึ่งเป็นกลไกที่ค่อนข้างคล้ายกับ Empty Set Dollar และเหรียญอื่น ๆ ที่ใช้คูปอง ซึ่งจะแจกจ่ายอุปทานใหม่ไปยังคลาสพิเศษของผู้ถือโทเค็น
Standard Hashrate ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มนักขุด Bitcoin รายใหญ่ ได้แก่ Atlas Mining, Btc.Top, Easy2Mine, Genesis Mining และ Hengjia Group กลุ่มเหล่านี้อ้างว่าพวกเขากำลังควบคุมแรงขุด Bitcoin ทั้งหมดในเครือข่ายประมาณ 12% โดยโปรโตคอล TAU และโทเค็น BTCST จะถูกรันอยู่บน Binance Smart Chain เท่านั้น ทำให้เป็นหนึ่งในโครงการดั้งเดิมของ BSC เพียงไม่กี่โครงการ
โครงการ Standard Hashrate เป็นความพยายามที่จะเชื่อมโยงโลกของการขุด Bitcoin ด้วยการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) โดยมอบ reward จาก proof-of-work ให้ โดยจากเอกสารรายงานระบุว่า โครงการดังกล่าวมองว่าตัวเองมีความโปร่งใส และมีเป้าหมายเพื่อสร้างตลาดอนุพันธ์ hash rate ที่มีความเป็นธรรม ซึ่งทาง Tony Ma ซีอีโอของ Atlas Mining แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้ว่า
“ เราเชื่อว่า BTCST ได้เชื่อมต่อการขุด Bitcoin กับโลก DeFi เข้าด้วยกัน ซึ่ง BTCST ทำให้เราสามารถรับ BTC จริงได้ครั้งแรกผ่านการ staking DeFi ดั้งเดิม ตอนนี้เราสามารถ stake ใน BTCST เพื่อรับสินทรัพย์ proof-of-workได้ นี่เป็นขั้นตอนที่สมเหตุสมผลสำหรับ BTCST ซึ่งเป็นสะพานให้ Bitcoin เข้าสู่โลก DeFi”