นาย Lark Davis นักวิเคราะห์สกุลเงินดิจิทัลชื่อดังได้ออกมาแสดงความเห็นว่าเหรียญ Cardano (ADA) นั้นเป็น “นักฆ่า Ethereum” ในขณะที่อีกหลาย ๆ คนต่างก็คาดหวังให้เหรียญดังกล่าวขึ้นไปอยู่บนอันดับ 2 ของโลกแทนที่ Ethereum หรือเหรียญด้าน smart contract ที่กำลังประสบปัญหาด้านการ scaling เพื่อขยายเครือข่ายอยู่ในขณะนี้
โดยอ้างอิงจากวีดีโอของนาย Davis นั้น เขาอธิบายว่าปัจจุบันเครือข่าย Ethereum กำลังเป็นผู้นำในตลาดอยู่เนื่องจากว่า “มันมีชุมชนการพัฒนาแบบกระจายอำนาจที่ใหญ่ที่สุดในวงการคริปโต” และเป็น “ล้ำหน้าเหรียญอื่น ๆ” ไปแล้วในแง่ของจำนวนนักพัฒนาที่กำลังพัฒนามันอยู่
เขายังกล่าวอีกด้วยว่า ETH นั้น “ล้ำหน้ากว่าแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะอื่น ๆ มาก” โดยมองว่ากิจกรรมของนักพัฒนาซอฟต์แวร์นั้น “แทบจะไม่เกี่ยวข้องเลยด้วยซ้ำ” อย่างไรก็ตาม เขามองว่าตอนนี้สิ่งที่ Ethereum ขาดก็คือการอัพเกรดสำคัญ และรวมถึงความจริงจังในการอัพเกรดเหล่านั้น
“โดยพื้นฐานแล้วแนวทางของ Ethereum คือการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดหรือการปรับปรุงจุดบกพร่องในเครือข่าย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้มีการอัปเกรดเครือข่ายที่สำคัญอย่างแท้จริงในช่วงสองสามปีนี้”
นายเดวิสกล่าวเสริมว่า Ethereum อยู่ระหว่างการ “อัพเกรดครั้งใหญ่ที่สุด” ในประวัติศาสตร์หรือ Ethereum 2.0 โดยการอัปเกรดดังกล่าวนี้จะเป็นการเปลี่ยนจากการใช้อัลกอริทึม Proof-of-Work (PoW) ให้กลายไปเป็น Proof-of-Stake (PoS) ในตอนท้ายสุดนั่นเอง
ในขณะเดียวกัน Beacon Chain ซึ่งเป็นเฟสแรกของการอัปเกรดเป็น Ethereum 2.0 นั้นถูกเปิดตัวแล้ว และกำลังทำงานควบคู่ไปกับ chain ดั้งเดิมของ Ethereum 1.0 เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดปัญหาใด ๆ ตามมาในระหว่างที่มีการเปลี่ยนผ่านดังกล่าวนี้
ในทางกลับกันเดวิสอธิบายว่า Cardano (ADA) ใช้การออกแบบด้วยภาษาการเข้ารหัสที่ใหม่กว่าและใช้งานง่ายกว่าเพื่อช่วยให้ผู้ใช้จำนวนมากสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชนที่อยู่เบื้องหลังมันได้ อย่างไรก็ตาม IOHK บริษัท เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังระบบนิเวศของ Cardano นั้นดูเหมือนว่าจะยังไม่มีผลงานในด้าน smart contract ที่เด่นชัดออกมาเลย เนื่องจากความล่าช้าในการพัฒนาของพวกเขา
“ทุกสิ่งที่ IOHK พัฒนาขึ้นอยู่บนพื้นฐานของการวิจัยทางวิชาการที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้ช่วยรีวิวที่มีความโปร่งใส ตอนนี้มันเสร็จแล้ว เหลือแค่การเปิดใช้งานโดยใช้วิธีการตามหลักฐานเท่านั้น”
กลยุทธ์การตรวจสอบโดย peer ของ Cardano ทำให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของพวกเขานั้นช้าเกินกว่าที่หลาย ๆ คนต้องการ “ทำไมสี่ปีต่อมาเรายังไม่มี smart contract แม้ว่ามันจะดูเหมือนใกล้จะเสร็จแล้วแต่ก็ไม่เสร็จสักที” สิ่งนี้เองทำให้เขาเปรียบว่าปัจจุบันมีแอพแบบ decentralized เป็นจำนวนมากที่ถูกสร้างอยู่บน Ethereum เกือบทุกวัน ในขณะที่ของ Cardano นั้นยังไม่มีสักตัว
เขาเสริมว่าเอฟเฟกต์เครือข่ายของ Ethereum นั้นแข็งแกร่งกว่าของ Cardano มากโดยเฉพาะของ Ethereum ที่มีพันธมิตรหลายรายในขณะที่ของ Cardano มีจำนวนน้อยกว่า เขากล่าวเสริมว่าพาร์ทเนอร์บางรายของ Cardano มีคุณภาพสูง ในขณะที่ของ Ethereum นั้นเริ่มทำงานกันช้าลง แต่โซลูชันการ scaling รวมถึงตัว Optimism ที่คาดว่ากำลังจะถูกเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
เดวิสสรุปว่า
“ผมมีความเชื่อในทฤษฎีของเครือข่าย 1 เครือข่ายแต่มีหลาย chain แต่ถ้าจะให้ผมต้องเลือกแบบเอาปืนมาจ่อหัวผม มันจะต้องเป็น Ethereum อยู่แล้ว ตอนนี้ในอนาคตที่เห็นได้ ผมคิดว่า Ethereum จะต้องเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอน”
เขาชี้ให้เห็นว่าการตัดสินใจว่า Cardano จะเหนือกว่า Ethereum ในแง่ของ network effect นั้นเป็นเรื่องยาก และเขาเชื่อว่าการเปิดตัวของ Ethereum 2.0 แบบสมบูรณ์จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ พร้อมตั้งคำถามว่าเขาสงสัยว่า ADA จะสามารถมี network effect ที่แซงหน้าของ Ethereum ในอนาคตอันใกล้นี้ได้หรือไม่