การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในด้านฟินเทคและการชำระเงินได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา จากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของ Covid-19 ได้ทำให้ความนิยมของการใช้เงินสดลดลงและผลักดันให้ธุรกิจจำนวนมากหันมาใช้วิธีการชำระเงินดิจิทัลกันมากขึ้น ในขณะเดียวกันบางคนก็ได้เริ่มหันมาใช้เหรียญ Stablecoin บ้างแล้ว โดยเราจะเห็นได้จากอุปทานหมุนเวียนของเหรียญ Stablecoin USDC ที่เติบโตเพิ่มขึ้นจากระดับ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมกราคม 2020 ไปเป็น 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่เขียนรายงาน
จำนวนการใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มสูงขึ้นได้ช่วยให้การชำระเงินมีการดำเนินการไปในแบบเรียลไทม์ มีราคาถูกและครอบคลุมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และนั่นคือหนึ่งในแรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังภารกิจของสมาคม Diem Association เพื่อเปิดตัวระบบการชำระเงินในทั่วโลก
ในขณะเดียวกันธนาคารกลางแห่งชาติก็กำลังเดินหน้านำร่องและทดสอบใช้สกุลเงินดิจิทัลของพวกเขาแล้วเช่นกัน โดย 80% ของประเทศทั่วโลกได้เริ่มมีการทดสอบใช้ CBDC แล้ว ด้วยเหตุนี้หน่วยงานทั้งสองจึงอาจมีการร่วมมือกันในอนาคต ซึ่งนี่คือเหตุผล
CBDCs และ Diem มีคุณสมบัติที่คล้ายกัน
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโครงการ Diem ดูเหมือนจะมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยเมื่อย้อนกลับไปช่วงเริ่มต้น Diem ได้มีการพัฒนาเหรียญ Stablecoins รูปแบบสกุลเงินเดียวเช่น Diem Dollar, Diem Pound และ Diem Euro คล้ายกับ Gemini Dollar (GUSD) หรือ USDC ของ Circle โดยแต่ละโทเค็นนั้นได้รับการค้ำประกันด้วยเงินดอลลาร์แบบ 1: 1
ในทำนองเดียวกัน CBDC จะถูกสร้างขึ้นโดยธนาคารกลางของแต่ละประเทศ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเงินทุนสำรองและอยู่ภายใต้กฎระเบียบของรัฐบาล
Diem จะช่วยรักษาการใช้สกุลเงินอธิปไตยในประเทศ
เพื่อเป็นการการันตีมูลค่าของ Diem Dollar ทางสมาคม Diem Association ได้มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งเพื่อให้แน่ใจได้ว่า พวกเขาจะสร้างเหรียญและเผาเหรียญตามจำนวนเงินที่แท้จริงในคลังสำรอง โดยเราสามารถอ้างอิงตามคำแถลงการณ์ล่าสุดของสมาคมที่ว่า Diem มีแผนที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับธนาคารกลางทั่วโลก อีกทั้งก่อนหน้านี้สมาคม Diem Association ยังเปิดเผยว่าเป้าหมายการสร้างเหรียญ Stablecoin ของพวกเขาก็คือ การเสริมนโยบายทางการเงินที่มีอยู่เดิม
ทั้งสองหน่วยงานจะใช้ช่องทางการชำระเงินที่คล้ายกัน
ทั้ง Diem และ CBDC จำเป็นต้องมีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชำระเงินขึ้นมาใหม่ ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานนี้อาจเป็นตัวเดียวกัน รวมถึงเครือข่าย blockchain ที่ CBDC จำเป็นต้องบันทึกข้อมูลไว้แอปพลิเคชันการชำระเงินและอุปกรณ์ POS ที่ใช้สำหรับการชำระเงิน
Diem และ CBDC แสดงถึงอนาคตของการเงินดิจิทัล
ในขณะที่ Diem กำลังรักษาความปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎเกณฑฺ์ข้อบังคับอยู่นั้น ดูเหมือนว่ารัฐบาลทั่วโลกจะเริ่มรับรู้ถึงคุณค่าในระยะยาวของเหรียญ Stablecoin แล้วและอาจมองหาวิธีทำงานร่วมกันในระบบโซลูชัน CBDC ของพวกเขาเอง
ในแง่ความคืบหน้าของโครงการ Diem นาย David Marcus หัวหน้าโครงการได้แสดงความรู้สึกมั่นใจว่า สกุลเงินดิจิทัลของพวกเขาจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ โดยเขาอ้างว่า Diem อาจรุกเข้าสู่ตลาดการเงินทั่วโลกภายในช่วงไตรมาสที่ 4 ด้วยการนำเสนอกระเป๋าเงินของ Facebook
ดังนั้นเมื่อ Diem มีการเปิดตัวผู้ใช้ทั่วโลกก็อาจได้รับโอกาสอำนวยความสะดวกในการชำระเงินด้วยเหรียญ Stablecoin ของ Facebook และ CBDC ไปพร้อมกัน
Diem และ CBDC ร่วมมือกันกำหนดภูมิทัศน์เศรษฐกิจให้กับโลกใหม่
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเป้าหมายของระบบการชำระเงิน Diem ก็คือ การผสานรวมนโยบายการเงินในท้องถิ่นและในทั่วโลกอย่างราบรื่น รวมทั้ง “การส่งเสริมสกุลเงินที่มีอยู่เดิม” แทนที่จะขัดขวางพวกมัน
ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ สมาคม Diem Association ต้องการจะทำงานร่วมกับธนาคารกลางอย่างแข็งขันเพื่อดำเนินการแก้ไขในประเด็นต่าง ๆ เช่นการอำนวยความสะดวกในการควบคุมเงินสด ตลอดจนการดำเนินการร่วมกับรัฐบาลในระยะสั้น โดยรวมแล้วอนาคตของตลาดการชำระเงินดูเหมือนจะสดใสขึ้นทุก โดยมี Diem และธนาคารกลางร่วมกันเป็นผู้นำด้านการชำระเงิน ตามแผนของนวัตกรรมบล็อกเชนในอีก 10 ปีข้างหน้า