Gary Gensler ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (ก.ล.ต.) กล่าวกับรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ว่าตลาดคริปโตเคอร์เรนซีจำเป็นที่จะต้องมีการคุ้มครองนักลงทุนมากขึ้น ทำให้ความหวังที่จะเห็นกองทุน ETF Bitcoin ในสหรัฐฯ ยังต้องรอต่อไปอีก
โดยเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ทางก.ล.ต.ได้ออกมากล่าวถึงคำร้องขอจัดตั้งกองทุน ETF ของ VanEck ว่าขอเวลาในการพิจารณาคำร้องดังกล่าวเพิ่มอีก 45 วัน ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ อย่างแคนาดาได้มีการอนุมัติกองทุน ETF Bitcoin หลายรายการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งกฎระเบียบและการคุ้มครองนักลงทุนเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องพิจารณา เนื่องจากการอนุมัติกองทุน ETF Bitcoin จะทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้โดยตรง ดังนั้นการขาดกฎระเบียบข้อบังคับและการคุ้มครองที่ดีจะส่งผลเสียต่อนักลงทุนหน้าใหม่ โดยเฉพาะสินทรัพย์คริปโตซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง
ประเทศสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงความกังวลอย่างมาก เกี่ยวกับแนวทางในการควบคุมกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเจ้าหน้าได้ออกมาให้ข้อมูลที่เป็นรูปธรรมเพียงเล็กน้อยในช่วงเดือนที่ผ่านมา เกี่ยวกับกฎระเบียบและแนวทางต่าง ๆ อย่าง CBDCs, การคุ้มครองนักลงทุน, กฎระเบียบทั่วไป และการเก็บภาษี ที่กำลังมีการพิจารณาและหารือกันอยู่ในขณะนี้ เพื่อจัดการควบคุมตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่กำลังเติบโต
ทางฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐฯ ที่ได้มีการแต่งตั้ง Gensler และ Janet Yellen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่ากำลังจับตาดูการพัฒนาเงินหยวนดิจิทัลของประเทศจีน ซึ่งสหรัฐฯเองก็ได้มีโครงการที่น่าจับตามองอย่างเงินดอลลาร์ดิจิทัลที่นำโดยนาย Christopher Giancarlo อดีตประธาน CFTC ของสหรัฐฯ
ดูเหมือนในขณะที่หลายประเทศได้พยายามเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากนวัตกรรมคริปโตเคอร์เรนซีที่มีความท้าทายอย่างมาก สหรัฐฯ กลับต้องการพิจารณาและตัดสินใจแนวทางในการดำเนินการอย่างรอบคอบมากกว่า