ประเทศฟิลิปปินส์ออกกฏหมายควบคุมผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนบิทคอย

ธนาคารกลางแห่งประเทศฟิลิปปินส์ได้ออกกฏหมายและแนวทางใหม่เกี่ยวกับผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนบิทคอยภายในประเทศ

โดยมันมีชื่อว่า “แนวทางสำหรับผู้ให้บริการแลกเปลี่ยน Virtual Currency (VC)“[PDF] โดยธนาคารกลางแห่งฟิลิปปินส์หรือ Bangko Sentral ng Pilippinas (BSP) ได้พยายามออกกฏหมายเพื่อควบคุมบริษัทผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนบิทคอยภายในประเทศ โดยเมื่อไม่นานมานี้ทางรัฐบาลได้กล่าวว่าบริษัทผู้ให้บริการแลกเปลี่ยน virtual currency นั้นก็ไม่ต่างจากบริษัทผู้ให้บริการส่งเงินเลย

โดยร่างที่มีนามว่า BSP Circular No.944 นั้นได้ถูกบังคับใช้ออกมาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาหลังจากที่คณะกรรมการการเงินแห่งประเทศได้ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ โดยเล็งเพื่อควบคุมผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนบิทคอยภายในประเทศ โดยร่างที่ว่านี้ได้ถูกอนุมัติก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา

โดยภายในกฏหมายที่ว่านี้ ทาง BSP ได้มอง virtual currency ว่าจะเป็นสิ่งที่จะมาปฏิวัติระบบการใช้จ่ายและการโอนเงินในประเทศที่เรียกได้ว่าเป็นอันดับที่สามในโลกในเรื่องของการรับเงินโอนที่มากที่สุด โดยอ้างอิงจากการคาดเดาว่ามีเม็ดเงินราวๆ 30 พันล้านดอลลาร์หรือราวๆ 10 เปอร์เซนของ GDP ประเทศที่มาจากการโอนเงินในปี 2015 โดยการใช้ virtual currency ที่มีความสามารถในการรับส่งที่เร็วกว่าและถูกกว่าระบบการโอนเงินระหว่างประเทศแบบธรรมดาจะส่งผลให้ผู้คนเลิกใช้ธนาคารกัน กล่าวโดยธนาคารกลาง

“ทางธนาคารกลางไม่ต้องการที่จะสนับสนุนให้ virtual currency อย่างเช่นบิทคอยกลายเป็นสกุลเงินเนื่องจากว่ามันไม่ได้ถูกออกและการันตีโดยธนาคารกลางหรือผูกติดกับสินทรัพย์อะไรเลย แต่ทางธนาคารกลางกำลังเล็งที่จะบังคับใช้กฏหมายกับ virtual currency เมื่อถูกใช้ส่งหากันเพื่อหวังผลทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้จ่ายและการโอนหากัน ซึ่งมันมีผลกระทบกับกฏหมายที่ว่าด้วยการฟอกเงิน และกฏหมายที่ว่าด้วยการต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย รวมไปถึงการปกป้องและคุ้มคองสิทธิของผู้บริโภคอีกด้วย”

โดยแนวทางฉบับร่างนั้นได้ถูกตีพิมพ์ออกมาภายในไม่กี่เดือนหลังจากที่ทางรองผู้ว่าราชการได้ออกมาประกาศถึงการประชุมเกี่ยวกับการบังคับใช้กฏหมายกับบริษัทผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินดิจิตอลภายในประเทศ

แนวทางสำหรับบริษัทผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนบิทคอย

เนื้อหาในร่างฯนั้นดูเหมือนจะไม่แตกต่างจากเนื้อหาของร่างฯของรัฐบาลอื่นๆทั่วโลกเท่าไรนัก โดยทางผู้ให้บริการนั้นจะต้องทำการจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับการลงทะเบียนและค่าทำเนียมรายปีให้กับทางรัฐบาลหลังจากที่ทางรัฐออกใบรับรองการจดทะเบียน ‘Certification of Registration’ (COR) มาให้แล้ว

การโอนเงินดิจิตอลหากันที่มีมูลค่ามากกว่า 500,000 เปโซ (หรือ 350,627 บาท) ต่อครั้งจะต้องทำผ่านเช็คหรือการโอนผ่านธนาคารเท่านั้น

มากไปกว่านั้น ทางธนาคารกลางยังต้องการให้มีการติดตั้งระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เพียงพอเพื่อปกป้องระบบและบัญชีของลูกค้าอีกด้วย

โดยเนื้อหาบางตอนที่คัดลอกออกมาจากจดหมายเวียนของทางธนาคารกลางมีดังนี้:

สำหรับผู้ให้บริการแลกเปลี่ยน virtual currency ที่มีบริการกระเป๋าเงินเพื่อให้ผู้ใช้งานได้ถือหน่วยเงินในระบบเพื่อเก็บและโอน virtual currency นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีระบบป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์รวมไปถึงอุปกรณ์เก็บข้อมูลและระบบการโอนเพื่อให้แน่ใจถึงความปลอดภัยของการโอน virtual currency และกระเป๋าเงิน

ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนบิทคอยและ virtual currency อื่นๆยังจะต้องส่งรายงานรายไตรมาสของโวลลุ่มและราคาของ virtual currency ที่ถูกส่งหากัน พร้อมๆกับลิสของอาคารออฟฟิซที่บริษัทมีรวมไปถึงเว็บไซต์ ในขณะที่ใบรายงานงบการเงินก็ต้องส่งรายปีเช่นกัน

หากละเมิดและฝ่าฝืน ทางรัฐบาลจะใช้กำลังเข้าสกัดและควบคุม โดยโทษของการฝ่าฝืนนั้นมีตั้งแต่การถูกปลดและการถูกยกเลิกใบอนุญาต ไปจนถึงข้อหาเข้าข่ายการฟอกเงิน