Jed McCaleb ผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple ได้ทำการขายโทเค็น XRP ไปเกือบ 240 ล้านเหรียญแล้วในเดือนนี้ และยังคงมียอดคงเหลือมากกว่า 431 ล้าน XRP ในกระเป๋า “~tacostand” ของเขา ตามข้อมูลจาก XRPScan
นาย McCaleb เริ่มทำงานกับ Ripple ในปี 2011 และเป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้ก่อตั้งเมื่อบริษัทเปิดตัวในปี 2013 ก่อนที่จะลาออกจากบริษัทในปี 2014 เพื่อไปก่อตั้งเหรียญ Stellar (XLM) เขาได้รับเหรียญ XRP จำนวน 8 พันล้านเหรียญสำหรับบทบาทในการพัฒนาและก่อตั้ง OpenCoin ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Ripple
อย่างไรก็ตาม การรับเหรียญของเขานั้นจะไม่ได้รับมาทันที แต่จะเป็นการค่อย ๆ ส่งให้รายเดือนจาก Ripple และเขาเคยออกมากล่าวในงาน XRP Talk ว่าจะวางแผนขายเหรียญที่ได้มานี้เพื่อไปบริจาคให้กับแพลทฟอร์มด้านการกุศลอย่าง Give Directly, Literacy Bridge และอื่น ๆ อีกมาก
ตั้งแต่นั้นมา เขาได้ขาย XRP ไปเรื่อยๆ จนถึงเดือนนี้ McCaleb มียอดขาย 240 ล้านโทเค็นมูลค่าประมาณ 148 ล้านดอลลาร์ ณ เวลาปัจจุบัน เนื่องจากโทเค็น XRP แต่ละรายการซื้อขายที่ประมาณ 0.618 ดอลลาร์ โดยราคาเหรียญดังกล่าวได้ลดลงอย่างมากจากระดับสูงสุดตลอดกาลที่มากกว่า 3 ดอลลาร์ในช่วงต้นปี 2018 และจากระดับเกือบ 2 ดอลลาร์ในปีนี้
เป็นที่น่าสังเกตว่าการขาย XRP ของ McCaleb ยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าตลาดเหรียญดังกล่าวนั้นจะต้องเผชิญกับการเทขายครั้งใหญ่จากคดีฟ้องร้องของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ต่อ Ripple Labs โดยเมื่อปีที่แล้ว ก.ล.ต. สหรัฐน กล่าวหา Ripple และผู้บริหารสองคนซ๋ษ “ระดมทุนกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ผ่านการเสนอขายหลักทรัพย์สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างผิดกฎหมาย”
ราคาของ XRP ยังได้รับอิทธิพลจากสถาการณ์ความกังวลเมื่อเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของ bitcoin เนื่องจากนักลงทุนบางคนหันไปใช้ cryptocurrencies ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น ด้าน Ripple ซึ่งเป็นผู้ถือครอง XRP รายใหญ่ที่สุด ได้ออกมาเน้นย้ำถึงความตั้งใจที่จะปล่อยก๊าซคาร์บอนให้เป็น 0 ภายในปี 2030 นี้