กิจกรรมตลาด NFT ดูเหมือนจะเริ่มกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง หลังจากซบเซามานานหลายเดือน ซึ่งเห็นได้จากโปรเจกต์ต่าง ๆ เช่น CryptoPunks , Bored Ape Yacht Club และเกม Axie Infinity ที่ถูกพูดถึงกันอย่างล้นหลามบนโลกโซเซียล แต่ท่ามกลางความฮือฮาเหล่านั้น Art Blocks ก็เป็นตลาดซื้อขายผลงานศิลปะบน Ethereum อีกหนึ่งแห่งที่ได้เห็นวอลุ่มการซื้อขายเพิ่มขึ้นมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ในวันนี้ผลงานศิลปะ Fidenza #313 ที่ถูกสร้างสรรค์โดยศิลปิน Tyler Hobbs ถูกขายไปในราคา 1,000 ETH หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 3.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ ผลงานศิลปะชิ้นนี้ถูกขายครั้งสุดท้ายอยู่ที่เพียง 0.58 ETH เท่านั้น (ประมาณ 1,400 ดอลลาร์) ในวันที่ 11 มิถุนายน นับเป็นผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลสำหรับเจ้าของคนสุดท้าย
Art Blocks ได้มีการเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2020 แต่แพลตฟอร์มมีคอลเลคชันที่ครอบคลุมผลงานมากกว่า 140 ผลงาน จากศิลปินที่แตกต่างกัน
จากข้อมูลจาก CryptoSlam เผยให้เห็นว่า Art Blocks มีวอลุ่มการซื้อขายรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 294 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่เปิดตัวจนถึงเดือนสิงหาคม และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 389 ล้านดอลลาร์จนถึงปัจจุบัน
คอลเลคชันภาพวาด Fidenza ของ Hobbs ได้มีการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน และกลายเป็นหนึ่งในคอลเลคชัน Art Blocks ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างรวดเร็ว
คอลเลคชัน Fidenza นั้นมีอยู่ทั้งหมด 999 ชิ้น โดยแต่ละชิ้นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและจะถูกทำเครื่องหมายด้วยลวดลายของสี่เหลี่ยมสีสันสดใสที่ถูกแต่งเติมลงไป
ผลงานศิลปะ Fidenza #313 ได้กลายเป็นภาพวาด NFT ที่แพงที่สุดที่ถูกขายบน Art Blocks อย่างไรก็ตามผลงานนี้ไม่ใช่ผลงานเพียงชิ้นเดียวของ Fidenza ที่ถูกขายเป็น ได้เป็นมูลค่ามากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจนถึงปัจจุบันทาง CryptoSlam ได้ตั้งข้อสังเกตว่า Fidenza มีผลงานอีก 3 ชิ้นที่ Hobb เคยขายได้เป็นมูลค่ากว่า 7 หลักและทั้งหมดเกิดขึ้นภายในช่วง 5 วันที่ผ่านมา
สำหรับภาพวาด NFT ที่มีราคาสูงสุดเป็นอันดับสองบน Art Blocks นั้นถูกขายไปเป็นมูลค่าสูงถึง 750 ETH (หรือ 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จากการเปิดขายครั้งแรกของนาย Chromie Squiggle ศิลปินและผู้สร้างคอลเลคชัน Snowfro