นาย Dan Markham ผู้สร้างช่องยูทูป What’s Inside ที่มีผู้ติดตามเจ็ดล้านคน ได้นำเอารถไฟฟ้าสุดหวงของเขา Tesla Roadster ไปแลกกับงานศิลปะดิจิทัล NFT ที่ไม่สามารถจับต้องได้
ในเดือนกันยายน วิดีโอ 15 รายการในช่อง What’s Inside Family ของเขา Markham ได้ออกมากล่าวว่าเขาได้นำเอารถ Tesla Roadster สีน้ำเงิน ซึ่งเขาคาดว่าน่าจะมีมูลค่าลดลงเหลือ “1/4 ล้านดอลลาร์ในไม่ช้านี้” มาแลกกับตัว NFT ที่ชื่อว่า “positive porcupine” ซึ่งเป็นโปรเจคของ VeeFriends และมีเจ้าของก่อนหน้านี้คือ Eli Burton หรือศิลปินที่อยู่เบื้องหลังภาพวาดที่ชื่อว่า The Adventures of Starman
“เมื่อมองย้อนกลับไปในหนึ่งปี สองปี สามปีต่อจากนี้ อาจเป็นการตัดสินใจที่โง่เขลามาก แต่ก็อาจเป็นการตัดสินใจที่ดีได้เช่นกัน” มาร์กแฮมกล่าว “ผมคิดว่ารถยนต์เหล่านี้มีมูลค่ามากมาเป็นเวลานาน และผมฉันเชื่อใน NFT”
นาย Markham กล่าวเสริมว่า
“ก็แค่ภาพวาดที่เอามาแลกกับรถ แน่นอนว่าคนที่รับแลกไปนั้นจะต้องคุ้มกว่าแน่นอน”
Burton กล่าวว่าเดิมทีเขาวางแผนที่จะขายงานศิลปะดิจิทัลในราคามากกว่า 100,000 ดอลลาร์ก่อนที่รับรู้ถึงข้อเสนอของมาร์กแฮม เขายังกล่าวว่าการซื้อขาย NFT สำหรับรถยนต์นั้น “ง่ายพอๆ กับเรื่องของอุปสงค์และอุปทาน” เนื่องจากปัจจุบันมีโทเค็นอยู่ 10,000 โทเค็น และแต่ละโทเค็นมีมูลค่าในราคาเริ่มต้นที่ 60,000 ดอลลาร์ โดย VeeFriends ได้เปิดขาย NFT ภาพวาดเหล่านี้ที่มีสีแบคกราวด์ที่แตกต่างกัน
“มันแทบจะไม่มีความต่างกันเลย ในแง่ของมุมมองด้านการจ่ายเงิน ไม่ว่ามันจะเป็นรถสะสม หรือของสะสมแบบ NFT ยังไงพวกมันก็คือของสะสม” กล่าวโดย Markham
แม้ว่านักสะสมทั้งสองจะแลกเปลี่ยน NFT บนบล็อกเชน แต่การซื้อขายดังกล่าวเกิดขึ้นบนโลกแห่งความเป็นจริง โดยที่ Markham ได้เซ็นสัญญาและมอบกุญแจให้กับ Burton
ปัจจุบัน NFT ชุด porcupine นี้ถูกวางขายอยู่บน OpenSea ด้วยราคาที่สูงถึง 16,339 Wrapped Ether (WETH) หรือ ประมาณ 1.87 ล้านบาทในตอนนี้ แต่ Markham บอกเป็นนัยว่าเขาวางแผนที่จะเก็บ NFT ตัวนี้ไว้เพื่อสิทธิ์ในการเข้าร่วมประชุมพิเศษสำหรับผู้ถือโทเค็น VeeFriends โดยเฉพาะ
เขาไม่ใช่ผู้ใช้ crypto คนแรกที่นำของสะสมในชีวิตจริงไปแลกกับ NFT ก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้ประกอบการรายหนึ่งเปิดประมูลจดหมายสมัครงานจากสตีฟ จ็อบส์ ผู้ร่วมก่อตั้งของ Apple ในรูปแบบ NFT โดยเอกสารฉบับจริงถูกขายไปในราคา 11.3 ล้านบาท ในขณะที่ในเวอร์ชัน NFT นั้นถูกขายไปในราคา 12 Ether (ETH) หรือประมาณ 9 แสนบาทในขณะนั้น