<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ก่อตั้งร่วม Ethereum ช่วยสตาร์ทอัพเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Blockchain เพื่ออาหาร ขาย ICO กันยายนนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์นามว่า Ambrosus ต้องการที่จะปฏิวัติวงการ supply chain ของอาหารโดยการสร้างระบบ smart contract เพื่อมาแทร็คขั้นตอนในการผลิต โดยระบบที่ว่านี้จะถูกรันอยู่บน blockchain ของ Ethereum และมันถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

วงการอาหารนั้นดูเหมือนว่ากำลังเตรียมพร้อมกับการมาของเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งต้องขอบคุณบริษัท Ambrosus ที่ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ โดยการเปิดขาย ICO ของพวกเขาจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้

โดยอ้างอิงจากเว็บไซต์ของ Ambrobus ทางบริษัทกล่าวว่าพวกเขาต้องการที่จะใช้เทคโนโลยีที่มีความทันสมัยสูงเพื่อมาพัฒนาระบบ supply chain ของอาหาร “ด้วยการนำเอาเซ็นเซอร์ระดับไฮเทค, Blockchain โพรโตคอล, และ smart contract มารวมกัน พวกเรากำลังสร้างระบบ ecosystem สำหรับการตรวจสอบอาหารที่ทุกๆคนสามารถตรวจสอบได้แห่งแรกของโลก”

โดยแนวคิดพื้นฐานของมันนั้นก็เพื่อการแทรคสถานะของการผลิตอาหาร โดยเริ่มตั้งแต่ที่ฟาร์มยันบนจานของผู้บริโภค ด้วยเทคโนโลยี Blockchain นั้น จะสามารถทำให้แน่ใจได้ว่าข้อมูลที่แทรคมาได้นั้นมีความเที่ยงตรง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มี ITcoin ของรัสเซียที่ถูกคิดค้นออกมาและทำหน้าที่คล้ายๆกัน

Ambrosus นั้นถูกสร้างบนเทคโนโลยี Blockchain ของ Ethereum และหุ้นส่วนหลักของพวกเขาก็คือบริษัท Parity Technologies ที่มีผู้ก่อตั้งร่วม Ethereum อย่างนาย Gavin Wood เป็นเจ้าของ ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาจะช่วยกันผลักดันเทคโนโลยีนี้ออกสู่ตลาด โดยมีผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum มาเป็นผู้ช่วยเหลือ

ที่น่าสนใจคือก่อนหน้านี้บริษัท Parity Technologies นั้นได้ไปอยู่หน้าหนึ่งของข่าวในหลายๆสำนักแล้ว เรื่องมาจากการถูกแฮคกระเป๋า Ethereum จากกลุ่มนักแฮคเกอร์ และถูกขโมยเหรียญ ETH มูลกว่า 30 ล้านดอลลาร์ โดยข่าวดังกล่าวได้ส่งผลให้คนหลายๆคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าเทคโนโลยี Blockchain นั้นปลอดภัยจริงหรือไม่

แม้จังหวะเปิดตัวจะมาผิดเวลา แต่ผู้ก่อตั้งร่วมของ Ambrosus นามว่า Angel Versetti นั้นมีความคิดที่ค่อนข้างเป็นบวกเกี่ยวกับศักยภาพของเทคโนโลยีที่บริษัทของเธอกำลังจะสร้างมันออกมา โดยเธอกล่าวว่า “การรวมกันของประสบการณ์ด้านเทคโนโลยี, และมันสมอง และความคิดสร้างสรรค์จะช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเทคโนโลยี Ethereum มาใช้กับวงการอาหาร”

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น