<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Vitalik เริ่มเขียน White paper สำหรับตัวอัพเกรด Ethereum ตัวต่อไป ‘Casper’ แล้ว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

อ้างอิงจากสำนักข่าวคริปโต CoinDesk ที่ได้ออกมาคอนเฟริ์มว่าผู้ก่อตั้ง Ethereum นามว่า Vitalik Buterin นั้นกำลังอยู่ในช่วงเขียน White paper เพื่ออธิบายเกี่ยวกับ Casper หรือตัวอัพเดตโพรโตคอลเวอร์ชันในอนาคตที่จะมีการเปลี่ยนจาก proof of work ให้กลายไปเป็น proof of stake

white paper ดังกล่าวนั้นจะถือเป็น milestone หลักสำคัญของ Ethereum เลยก็ว่าได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ตัว Casper นั้นได้ถูกเสนอไว้ด้วยไอเดียคร่าวๆมานานแล้วโดยนักพัฒนาบางคน แต่ก็ยังไม่ได้ถูกสร้างโครงรายละเอียดใดๆขึ้นมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งแนวคิดของตัวอัพเดตดังกล่าวนี้มีเป้าหมายขึ้นเพื่อทำให้เครือข่ายโดยรวมของ Ethereum นั้นมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะการเก็บข้อมูลธุรกรรม ซึ่งในขณะนี้หลายๆคนก็กำลังเฝ้ารอ white paper ของตัวอัพเดตดังกล่าวอยู่

proof of stake นี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Ethereum เนื่องจากจะทำให้ไม่สามารถขุดเหรียญดังกล่าวได้อีกต่อไป และผู้ใช้งานทุกคนนั้นจำเป็นที่จะต้องไว้ใจทางทีมนักพัฒนาดังกล่าวว่าพวกเขาจะไม่ทำให้ผิดหวัง

ดังนั้น white paper ของ Vitalik จะส่งผลให้นักพัฒนา Ethereum ทุกคนต้องหันมารีวิวแนวทางทั้งหมดใหม่ ซึ่งนี่จะเป็นขั้นตอนสำคัญในการปูเรื่องของ proof of stake ก่อนการอัพเกรด Metropolisที่จะมีมาถึงในเร็วๆนี้

“เอาง่ายๆเลยคือการออกแบบ Casper นั้นจะดีขึ้นเรื่อยๆในทุกๆครั้งที่เรากล่าวย้ำ” กล่าวนาย Virgil Griffith หรือนักแฮคชื่อดังและนักพัฒนา Ethereum ที่กำลังช่วยรีวิว white paper ของ Vitalik อยู่ในขณะนี้

white paper ดังกล่าวกำลังถูกเขียนอย่างลับๆในแฟ้มบน GitHub มาเป็นเวลาสองสัปดาห์กว่าแล้ว โดยมี Vilatik และ Virgil ช่วยกันอัพเดตอยู่บ่อยๆ

อย่างไรก็ตาม เอกสาร white paper ดังกล่าวก็จะใช้เวลานานมากๆ และอาจจะไม่สามารถทำเสร็จได้ภายใน 1 วัน นาย Virgil กล่าวว่า

“ผมกำลังทำมันขึ้นมาอยู่ในขณะที่ผมกำลังพิมพ์คุยกับคุณเนี่ย”

ช้าๆและมั่นคง

paper ตัวแรกนั้นถูกตั้งชื่อโดย Vitalik ว่า “Casper the Friendly Finality Gadget” เป็นเชิงติดสนุกกับการ์ตูนเมื่อปี 1990 นามว่า “Casper the Friendly Ghost” โดย paper ตัวนี้จะอธิบายถึงวิธีการที่ consensus ของระบบดังกล่าวว่าทำงานอย่างไร

ที่น่าสนใจคือเอกสารตัวนี้ได้มีการเปลี่ยนแนวคิดและทิศทางของ Ethereum ใหม่ กล่าวคือ พวกเขาจะค่อยๆทำการเปลี่ยนจาก proof of work มาเป็น proof of steak แบบช้าๆ แทนที่จะเป็นแบบทันทีทันใดแบบที่เคยออกมาเกริ่นไว้ก่อนหน้านี้

[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]

paper ได้อธิบายไว้ว่า

“หลักการทำงานของข้อเสนอนี้คือเราจะค่อยๆเริ่มสร้างจาก chain หลักของ Ethereum ในปัจจุบันที่เป็น proof of work โดย Casper นั้นจะมีอัลกอรริทึ่มอยู่สองเวอร์ชันก็คือ PoW/PoS ที่ทำงานพร้อมๆกันบน proof of work แต่มันก็จะยังไม่ปลอดภัยเท่าไร ทว่าเวอร์ชันในอนาคตนั้น proposal ตัวใหม่อาจจะทำงานกับอย่างอื่นแทน”

ซึ่งหากจะให้อธิบายแล้วละก็ proof of work นั้นจะถูกใช้เพื่อตรวจสอบบล็อกส่วนใหญ่ของ Ethereum แต่ proof of steak นั้นจะถูกใช้ในจุด “เช็คพอยต์” ที่ทุกๆ 100 บล็อก ซึ่งการทำงานควบคู่กันดังกล่าวนี้จะช่วยสร้างความ “เป็นขั้นสุดท้าย” ให้กับระบบ หรือจะช่วยการันตีว่าธุรกรรมนั้นจะไม่ถูกนำไปใช้จ่ายมากกว่า 1 ครั้งนั่นเอง

paper ดังกล่าวยังได้มีการพูดถึงโอกาสที่จะถูกโจมตีอย่างเช่น ‘การโจมตีระยะไกล’ ที่ผู้ตรวจสอบนั้นอาจจะพยายามโจมตี และรวมถึงการที่ Casper นั้นจะปิดรอยรั่วตรงนี้ด้วย

รายละเอียดที่ยิ่งกว่าละเอียด

paper อีกสองใบที่เหลือจะมีการพูดถึงรายละเอียดของระบบ

ซึ่งใบที่สองนี้มีชื่อว่า “Incentives in Casper the Friendly Finality Gadget” ที่มีการอธิบายถึงแรงจูงใจในการสร้างระบบดังกล่าวขึ้นมา และทำให้ผู้ใช้งานแน่ใจว่ามันจะไม่มีปัญหาในอนาคต

สำหรับ Casper นั้นมันมีอยู่สองเรื่องที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาผิดพลาดได้ อย่างแรกคือ “ความผิดพลาดทางด้านความปลอดภัย” จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อกฎนั้นใช้ไม่ได้ อย่างเช่นเมื่อมีผู้ตรวจสอบสองคนที่มีสถานะที่เข้ากันไม่ได้ (incompatible states) และอย่างที่สองคือ “Liveness fault” ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อระบบนั้นหยุด หรือล้มเหลวในการส่งผ่านธุรกรรม

เนื่องจากว่าผู้ใช้งานนั้นจะต้องทำการวางเงินเดิมพัน (stake) เข้าไปในระบบ เพื่อที่จะได้เป็นผู้ตรวจสอบ (validator หรือเรียกอีกอย่างว่าช่างตีเหล็ก) ธุรกรรม ซึ่ง paper ได้ระบุไว้ว่าถ้าหากผู้ตรวจสอบมีความพยายามที่จะละเมิดกฎนั้น ระบบก็จะทำการขโมยเงินเดิมพันไป

[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]

paper ใบที่สาม มีชื่อว่า “Automated Censorship Attack Rejection” ซึ่งจะโฟกัสไปที่การโจมตี 51% หรือเหตุการณ์ที่นักขุดหรือพูลขุดมีพลังในการขุดมากกว่า 51% จนสามารถควบคุมเครือข่ายให้เป็นไปได้ดั่งใจ เช่นเลือกที่จะ confirm ธุรกรรมนี้หรือไม่ก็ได้ หรือแม้แต่จ่ายสองที ก็ทำได้เช่นกัน

นักพัฒนาส่วนใหญ่นั้นกำลังหาวิธีการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้อยู่ ซึ่งถ้าหากมันเกิดขึ้นจริงๆนั้น จะทำให้เกิดหายนะในวงการ blockchain อย่างแน่นอน

ใน paper นั้น นาย Vitalik ได้เถียงว่า Casper ช่วยลดผลกระทบของปัญหาดังกล่าวนี้ เนื่องจากโพรโตคอลจะทำการริบเงินเดิมพันของพวกเขาไปในกรณีที่พวกเขาทำผิดกฎ

วิธีการอื่น

ที่สำคัญคือ ใน paper ดังกล่าวนี้นาย Vitalik ยังกล่าวถึงโซลูชันอื่นๆนอกเหนือจาก proof of stake อีกด้วย

หัวหน้าทีมนักพัฒนาของ Casper นาม Vlad Zamfir ได้กล่าวว่าเขาวางแผนที่จะเปิดตัวรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวพัฒนาเวอร์ชันใหม่ตัวนี้ในงาน Devcon หรืองานประชุมของ Ethereum ขนาดใหญ่ ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้

เขาได้กล่าวว่า

“Vitalik เขามีความอยากที่จะติดตั้งระบบอะไรบางอย่างในเร็วๆนี้ แต่ทว่าผมก็มีความอยากมากกว่าที่จะค้นหาโซลูชันอื่นๆที่ดีกว่านี้ แม้ว่ามันจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ก็ตาม”

กระนั้น สิ่งที่เราควรจะพิจารณาก็คือ paper ที่นาย Vitalik เสนอขึ้นมายังเป็นแค่โครงร่าวเท่านั้น ซึ่งในอนาคตจะมีช่วง peer-review ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรอื่นๆในอนาคตอีกก็เป็นได้

กระนั้น นักพัฒนาหลายๆคนก็เริ่มที่จะพัฒนาระบบ Casper ในระยะแรกตามที่นาย Vitalik ออกมาร่างแล้ว โดยระบบอัพเกรดดังกล่าวนี้จะถูกเปิดใช้งานหลังจากตัวอัพเดตเวอร์ชัน Metropolis เปิดใช้งานจริงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น