ทางการของเกาหลีใต้ได้ออกมาคอนเฟิร์มว่านักแฮคจากประเทศเกาหลีเหนือนั้นได้มีการตั้งเป้าหมายโจมตีเว็บเทรด Bitcoin ในประเทศเกาหลีใต้จริง โดยการโจมตีหลายครั้งที่ผ่านมามีขึ้นเพื่อขโมยเหรียญ cryptocurrency
ทาง National Police Agency (NPA) ของประเทศเกาหลีใต้ได้ประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับนักแฮคจากประเทศเกาหลีเหนือ ตามที่ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปก่อนหน้านี้ว่าทางบริษัทรักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์ FireEye ที่ได้ชี้ให้เห็นว่าแคมเปญการขโมยเหรียญ cryptocurrency ดังกล่าวที่มีรัฐบาลเกาหลีเหนือเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังมีขึ้นจริง
ประเทศเกาหลีเหนือถูกกล่าวหาว่าเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลที่ขโมยมาได้ไปเป็นเงินสด เนื่องจากถูกประเทศอื่นๆทั่วโลกรวมถึงสหประชาชาติคว่ำบาตรเนื่องจากว่าพวกเขากำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
“นักแฮคหนุนหลังโดยรัฐบาลเหล่านั้นกำลังพยายามขโมย Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่นๆเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกแซงชั่น และนำไปขายแลกเงินสดเพื่อนำไปสนับสนุนท่านผู้นำ” อ้างอิงจากรายงานของ FireEye
โดยในขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวนของเกาหลีใต้ได้ออกมาคอนเฟิร์มแล้วว่าการโจมตีดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในรูปแบบของ phishing (การหลอกลวงเพื่อขโมยรหัส) โดยเมื่อตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีพนักงานประจำ 25 คนของบริษัทเทรด Bitcoin สี่บริษัทตกเป็นเหยื่อในการทำ phishing เหล่านี้มาแล้วทั้งหมด 10 ครั้ง โดยพวกเขาจะหลอกให้เหยื่อให้ข้อมูลรหัสการล็อกอินแก่นักแฮค อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้กล่าวว่าการโจมตีในครั้งล่าสุดนั้นไม่สำเร็จ ซึ่งไม่มีปัญหาและการขโมย Bitcoin เกิดขึ้นแต่อย่างใด
สำนักข่าวที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้นาม Yonhap รายงานว่าทางตำรวจนั้นมีหลักฐานว่า email ที่ถูกใช้ทำ phishing นั้นถูกส่งมาจาก IP ของประเทศเกาหลีเหนือทั้งหมด และน่าจะเป็นความพยายามในการแฮคเว็บเทรดดังกล่าว
โดยอ้างอิงจากบริษัทด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในเกาหลีใต้แห่งหนึ่งนั้น นักแฮคชาวเกาหลีเหนือมักจะขโมย Bitcoin มูลค่าประมาณ 100 ล้านวอน (ประมาณ 90,000 ดอลลาร์) ทุกๆเดือนเป็นประจำตั้งแต่ช่วงปี 2013-2015 เพื่อนำไปแปลงเป็นเงินสกุล safe haven ในภายหลัง
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
รายงานของตำรวจในเกาหลีใต้มีขึ้นหลังจากการแฮคเว็บเทรดที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ Bithumb ที่ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าประมาณ 31,000 คนรั่วไหลเนื่องจากการทำ phishing ซึ่งภายหลังทำให้เกิดความสูญเสียจากการแฮคเป็นมูลค่าประมาณหลายร้อยล้านวอน
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น